Page 174 - นครรังสิตของเรา
P. 174
ฝึกอบรมให้อาสาสมัคร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการฝึกใหม่ หรือทบทวน บางส่วนก็เอาเงินไป ผู้น�ำท้องถิ่น ถือเป็นครั้งแรกที่นิตยสารผู้น�าท้องถิ่นได้มีโอกาสมานั่งพูดคุยกับท่านนายกฯ ผู้น�ำท้องถิ่น ในยุคของท่านอดีตนายกฯ เดชา เรื่องหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือท่านได้สร้าง มีงบประมาณซ่อมอยู่ล้านหนึ่ง เราก็ออกสัญญาแบบใหม่ ประมูลไปเลยล้านหนึ่ง
ซื้ออุปกรณ์เพิ่มให้กับทางรถ คืออาสาสมัครเขามีรถ แต่ว่าอุปกรณ์มาตรฐาน เขามา อย่างเป็นทางการ และพอได้พูดคุยหลายเรื่องก็ท�าให้เราอดคิดถึงท่านอดีตนายกฯ เดชา ผลงานที่เป็นภาพจ�าให้กับคนรังสิตไว้มากแต่ในขณะที่ยุคของท่าน โจทย์หลายอย่าง ยังไม่มีพื้นที่ซ่อม ประมูลไว้ก่อน เอาพื้นที่เป็นอะไรเป็นตารางเมตรอะไรไว้ก่อน แบบ
ขอรับเงินจากกองทุน เพื่อที่เขาจะสามารถปฏิบัติงานเรื่องผู้ป่วยฉุกเฉินได้ ทั้งหมดที่ ไม่ได้ ถามอย่างนี้เลยดีกว่าครับ “ลูกไม้ใต้ต้น” แบบท่านมีสไตล์การท�างานที่เหมือนหรือ เปลี่ยนไป ทั้งในแง่ของการพัฒนาและการให้บริการ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน สัญญาเราก็ออกแบบว่าเวลาเราจะซ่อมเราก็เอาหนังสือสั่งไป ให้คุณไปซ่อมตรงนี้นะ
ผมยกมาเป็นแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่งเพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า เรื่องบริการสาธารณสุขของเรา แตกต่างไปจากยุคของท่านอดีตนายกฯ เดชาอย่างไรบ้าง ขึ้น ตรงนี้ท่านนายกฯ มีความกังวลหรือหนักใจหรือไม่ว่าจะถูกน�าไปเปรียบเทียบ 40 ตารางเมตร สัญญาแจ้งว่าคุณต้องซ่อมให้เสร็จภายใน 15 วัน อย่างนี้ก็ไม่ต้อง
ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ เราต้องคิดต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาความที่เรา ประมูลแล้ว เราก็ท�าหนังสือสั่ง คุณก็ซ่อม ซ่อมเสร็จคุณก็เบิกตังค์ นี่คือตัวอย่างของ
เป็นเมืองใหญ่ มีความหลากหลายและซับซ้อนมาก การจะตอบสนองทุกเรื่องให้ได้ นำยกฯ ธีรวุฒิ ถ้าพูดถึงสไตล์การท�างานของคุณพ่อผม ก็อย่างที่หลายคนได้เคยสัมผัส นำยกฯ ธีรวุฒิ พูดตรงๆ ผมไม่กดดันเลยนะ เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกัน คือจะ วิธีคิดแบบใหม่ของเรา แต่เราก็ต้องท�าให้ถูกต้อง ก็ก�าลังให้อัยการเข้ามาช่วยตรวจให้
ครอบคลุม เข้าถึง เราต้องมีความคิดที่ละเอียด ท�างานหนัก และลงไปใส่ใจอยู่ตลอด ท่านก็จะเป็นกันเอง ปกครองในลักษณะของความเป็นครอบครัว ความเป็นลูกพี่ลูก ดีหรือไม่ดี สุดท้ายแล้วสู้ไม่ได้ หรือท�าดีกว่า การเปรียบเทียบเป็นของธรรมดา แต่ เราจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ มันไม่ทันกับความต้องการของประชาชน เราต้องปรับวิธีคิด
เวลา” น้องกัน ในเชิงสังคม เหมือนคนอยู่บ้านเดียวกันเหมือนเราเป็นตัวแทนของบ้านมา สุดท้ายภาพรวมมันโอเคไหมล่ะ ผมต้องการแค่ผลสัมฤทธิ์ ใครดีกว่ากันในเรื่องใดเป็น ใหม่ กระบวนการใหม่ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ไม่ใช่แค่ปรับวิธีคิด แต่ต้องปรับทัศนคติ
ดูแลเมืองให้ ตรงนี้มันจะมีความสัมพันธ์กับลักษณะสังคมเมืองรังสิตในอดีต แต่ว่าพอ เรื่องปกติ อย่างเช่นบอกว่าลูกน้องชอบเพราะว่านายกฯ ใจดี แต่สุดท้ายภาพผลสัมฤทธิ์ ของเจ้าหน้าที่บุคลากรด้วย เราต้องสร้างความเข้าใจกับเขาว่าคุณคิดแบบนี้นะ ข้อดี
คิดแบบมหำนคร เมืองมันโต คนมันเยอะขึ้น วิธีการก�ากับดูแลก็ต้องเปลี่ยน วิธีคิดก็ต้องเปลี่ยน การใช้ คืออะไร คือประชาชนต้องได้รับผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น เพราะฉะนั้นสุดท้ายผลสัมฤทธิ์ของพี่ อย่างนี้นะ 1 2 3 เราต้องโน้มน้าว ผู้ปฏิบัติ เราก็ต้องไปหาเหตุผล ไปโน้มน้าวเจ้าหน้าที่
กับธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม จับควำมคิดแบบค�ำต่อค�ำไปกับ เทคโนโลยีก็ต้องเปลี่ยน นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับสังคมที่เปลี่ยนไป ซึ่งผม น้องประชาชนจะเป็นค�าตอบ เรื่องนี้ต่างหากที่เป็นเป้าหมายในการท�างานของเรา บุคลากรของเรา หรือคณะผู้บริหารเรา ว่า เอ๊ะ อย่างนี้ดีกว่ากันไหม ท�าให้ได้ประโยชน์
“นำยกเทศมนตรีนครรังสิต” เข้ามาตรงนี้ก็ขับเคลื่อนให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เราต้องปรับเปลี่ยนให้ นี่คือวิธีคิดที่ต้องประยุกต์ ซึ่งเราก�าลังเดินไปในแนวทางนี้
รองรับกับโลกาภิวัตน์ที่มันเดินมาให้ทันได้ พูดให้เห็นภาพก็คือในยุคของคุณพ่อเป็นยุค ผู้น�ำท้องถิ่น ที่ท่านบอกว่านครรังสิตต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรองรับกับโลกาภิวัตน์ซึ่ง
เรื่องราวของมนุษย์บนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรเป็นกฎตายตัวก็จริงอยู่ ลูกไม้หล่น
ไม่ไกลต้น เอาเข้าจริงๆ ก็แค่ความน่าจะเป็นที่ไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่าจะต้องเป็น ที่เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อรองรับกับความเป็นเมือง ก็เหมือนกับมีคนสร้างกล่อง มาพร้อมกับความเจริญ ให้ทัน ถึงวันนี้ท่านได้เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการที่ว่าไป ผู้น�ำท้องถิ่น ความเป็นเมืองใหญ่ที่ความเจริญวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วแบบนครรังสิต
ธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต ผู้น�าท่านนี้แม้มิได้ผิดแผกแตก ขึ้นมาไว้ให้ แต่ข้างในยังไม่ได้ใส่รายละเอียดอะไรไว้ ระบบจิ๊กซอว์ในการขับเคลื่อนยัง ถึงไหนแล้วครับ เล่าให้เราเห็นภาพหน่อยได้ไหมครับ ท่านนายกฯ ช่วยอธิบายความแตกต่างซึ่งหมายถึงวิธีคิดที่ต้องแตกต่างเมื่อเอาไปเปรียบ
กอเฉกเช่นความไม่เที่ยงที่ถูกยกขึ้นมาอ้างถึงก็จริงอยู่ หากแต่ค�าว่า “ลูกไม้หล่นไม่ ไม่ได้เอาไปใส่ และเผอิญว่าเมืองของเราเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมเมืองที่มีความเจริญเข้า เทียบกับเมืองที่อยู่ในชนบทหรือท้องถิ่นส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้มีความเจริญมากเท่านี้
ไกลต้น” ที่ผู้น�าท่านนี้ถูกมองจากผู้คนภายนอก ดูเหมือนจะถูกให้ค่าและคาดหวัง มาอย่างรวดเร็ว ผมมีหน้าที่เอารายละเอียดไปใส่ในกล่องให้มีความสมบูรณ์ เพราะ นำยกฯ ธีรวุฒิ ตอนนี้ประมาณสัก 75% ที่โอเคแล้ว กับ 25% ที่ต้องปรับแก้แล้วก็ เราเชื่อว่าบทเรียนจากนครรังสิตน่าจะเป็นองค์ความรู้ชั้นดีให้กับผู้น�าท้องถิ่นท่านอื่นๆ
มากกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเก้าอี้และต�าแหน่งหน้าที่ที่ก้าวขึ้นมารับผิดชอบ ด้วยผล ฉะนั้นวิธีการท�างาน กระบวนการการออกแบบการท�างาน หลายเรื่องก็มีความจ�าเป็น ท�าต่อไป แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการมันมีพลวัตมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ช่วงนี้เป็น ได้ศึกษา โดยเฉพาะผู้น�าที่อยู่ในเมืองซึ่งมีแนวโน้มที่จะต้องกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญ
งานที่ไม้ใหญ่ ผู้พ่อได้เคยสร้างชื่อไว้บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน บางที “ลูกไม้หล่นไม่ไกล ที่จะต้องมีความแตกต่างไปจากอดีตที่เคยปฏิบัติกันมา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความเหมาะ เรื่องของการน�าเครื่องมือมาจับเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นการประเมินค่อนข้าง แบบเดียวกับที่นครรังสิตก�าลังเผชิญ
ต้น” เช่นนี้ ก็มิจ�าเป็นต้องเหมือนคล้ายไปเสียทุกอย่างมิใช่หรือ สมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ยากว่าอะไรส�าเร็จ ไม่ส�าเร็จ แต่เราก็มองว่ากลไกที่เราขับเคลื่อนจะไปตอบสนองกับ
คลื่นลูกใหม่ควรมีวิธีคิดเป็นของตัวเอง กาลเวลาเปลี่ยนสภาพความเป็นเมือง องคาพยพของเมืองในอนาคต เราก็ต้องมาคิดแนวทาง คิดใหม่เปลี่ยนใหม่ เช่น มีพี่ นำยกฯ ธีรวุฒิ การจัดบริการสาธารณสุข ประชากรเทศบาลนครรังสิตมีเท่าไร แล้วก็
ของเมืองที่เปลี่ยนไป บางทีเจเนอเรชั่นใหม่ที่มาจากพันธุ์ไม้กอเดียวกันก็ไม่จ�าเป็นต้อง น้องประชาชนร้องเรียนเรื่องถนนช�ารุด วิธีการเดิมในระบบราชการคือต้องรอ 6 เดือน จัดบริการไปเพียงเท่านั้น ไม่ได้ เพราะแท้ที่จริงแล้วต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ณ ปัจจุบันนี้
คิดเหมือนกันไปซะทุกเรื่องไม่ใช่หรอ และนี่ก็คือเหตุผลที่เราต้องไปนั่งคุยกับผู้น�าจาก กว่าจะตั้งงบประมาณได้ กว่าจะเรียกประมูลซ่อมได้ ถนนเดียว 6 เดือนยังไม่ได้ท�าเลย ประชากรที่มีอยู่ในทะเบียนราษฎรหรือประชากรหลักของเรานะยังไม่เท่าประชากรแฝง
ตระกูล “กลิ่นกุสุม” คนล่าสุดท่านนี้กัน ตรงนี้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร เราก็มานั่งดีไซน์ว่าให้ประมูลไปเลยได้ไหม ปีหนึ่งสมมุติ น้อยกว่าประชากรแฝงเกือบ 2-3 เท่าตัว ประชากรหลักเรามีแปดหมื่น ประชากร
170 นครรังสิตของเรา นครรังสิตของเรา 171