Page 175 - นครรังสิตของเรา
P. 175
แฝงมีสองแสนกว่า มันเยอะกว่าประชากรหลักที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นหลายครั้งที่คิด บริการให้กับทุกๆ คน ให้รับความพึงพอใจเท่าเทียมกัน แต่ก็มีบางเรื่องที่เป็นเรื่องของ เทศบำลเคลื่อนที่ อันนี้เราจัดเดือนละครั้งเหมือนกัน เป็นการจัดบริการสาธารณะลง ผู้น�ำท้องถิ่น เรื่องใหญ่ของเมืองใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่เราพอจะมองเห็นก็คือเรื่องเงิน
เรื่องการจัดบริการ ก็ต้องคิดให้ครอบคลุม อย่างเช่นงานทะเบียนราษฎรเรา ถ้าตาม สิทธิ์ เรื่องของความเฉพาะตัว เรื่องของอ�านาจหน้าที่ อันนี้ก็จะจัดให้คนที่อยู่ในเขต ไปบริการ ในขณะเดียวกันก็ท�าให้เรามีโอกาสได้ไปรับรู้ปัญหาอีกเหมือนกัน แล้วเราก็ งบประมาณในการพัฒนาที่ต้องสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ข้อด้อยหรือจุดอ่อนของท้อง
มาตรฐาน จะมีช่องจ่ายบัตร 1 ช่อง เวลาท�างานปกติตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง ถึง 4 โมงครึ่ง จริงๆ แล้วประชากรแฝงกับกิจกรรมของเรา เวลาจัดกิจกรรมเราก็ไม่ได้เลือก หรือจัด มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมกัน มีเรื่องอะไรที่ก�าลังจะเกิดผลกระทบ ก็เอาไปคุยไปเล่าให้ ถิ่นส่วนใหญ่คือเรื่องของการบริหารรายได้ การเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง ทั้งๆ ที่ก็พอจะมี
อันนั้นคือบริบทของการให้บริการโดยทั่วไป แต่พอมาอยู่ในเขตเมือง กระบวนการคิด บริการ เราก็ไม่ได้เลือกว่าจะให้ใครไม่ให้ใคร เรามองภาพรวมว่าคนที่อยู่ข้างนอกหรือ เขาฟัง อันนี้เป็นเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน สร้างปฏิสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น สร้างการมี ช่องทางอยู่ เราอยากฟังแนวคิดของท่านนายกฯ ในเรื่องนี้ครับ
แล้วก็โจทย์ต่างกัน เรามีความจ�าเป็นต้องเปิดเสาร์-อาทิตย์ มากไปกว่านั้นเราต้อง คนที่เป็นประชากรแฝง ส่วนหนึ่งก็เป็นคนขับเคลื่อนท�าให้พื้นที่เรา เศรษฐกิจเดินไป ส่วนร่วม เพราะเรื่องการมีส่วนร่วมเป็นหัวใจความส�าเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่เมือง
ท�าให้เขาสะดวก เรายังต้องมีศูนย์บริการที่ห้างสรรพสินค้า อันนี้วิธีคิดก็จะแตกไปจาก ได้ เราก็เจริญ มันเกิดภาษี เกิดรายได้สู่ท้องถิ่น แม้บางอย่างที่จะเป็นภาระ เช่น ค้ายา เล็ก เพียงแต่ว่าวิธีท�า รายละเอียด ความยากง่ายมันก็ต่างกัน นำยกฯ ธีรวุฒิ ณ วันนี้ เราจะดูฐานรายได้ที่ควรจะเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม แล้วไม่
ชนบท ว่า เอ...มีคนเท่านี้ จัดบริการเท่านี้ก็พอ ไม่ใช่ เรามีรายละเอียด ไม่เว้นแม้แต่ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย อันนี้เป็นปัญหาก็จริง แต่เราก็ต้องยอมรับ เพราะฉะนั้น กระทบกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงอย่างเดียว เราดูในภาพกระจาย ดูว่าตรงไหนควรปรับ
เรื่องการให้ข้อมูลข่าวสาร หรือการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนในเมืองใหญ่ มันต่างกัน เวลาท�ากิจกรรมเราไม่ได้แยกออกไปขนาดนั้น และเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่สามารถเลือก นำยกฯ ธีรวุฒิ คือเวลาเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองที่อยู่ในปริมณฑล เป็นเขตเมือง ความ ตรงไหนต้องท�าอย่างไร เราดูในภาพรวม เราดูในส่วนที่เป็นสิทธิของเราตามกฎหมาย
คนต่างจังหวัดประกาศเสียงตามสาย หรือเรียกมาประชุมก็ได้ไม่ยาก แล้วก็รับรู้กันไป ปฏิบัติได้หรอก พึงพอใจของคน การที่จะให้ท้องถิ่นจัดบริการสาธารณะ มันไม่ได้มีเพียงแค่เก็บขยะ ดูว่ามันมีการเล็ดลอดไปหรือไม่ เอาเทคนิคการบริหารจัดการงบประมาณ เอาเทคนิค
หมด แต่ของเรา คนเมืองกลางวันเขาก็ออกไปท�างานกันหมด กลับมาเขาก็อยากจะ ดูดส้วม หรือถนน น�้า ไฟ มันมีเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นในเขตเมื่อก็ต้อง การใช้เงิน คือจริงๆ แล้วต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า วันนี้ผู้บริหารท้องถิ่นเป็นแค่ผู้บริหาร
พักผ่อน เพราะฉะนั้นเราต้องมีวิธีคิดที่ต่างออกไป อย่างกรณีนี้เราก็แก้ด้วยการเสริม ผู้น�ำท้องถิ่น แล้วเรื่องการมีส่วนร่วมในแบบคนเมืองล่ะครับ เรื่องนี้มีปัญหาหรือไม่ มีหลายๆ อย่าง เรื่องสันทนาการ คุณภาพชีวิต อย่างเรื่องเศรษฐกิจเราก็ต้องพยายาม ไม่ได้ ต้องเป็นนักการเงินด้วย ต้องรู้จักเทคนิคว่า เงินฝากอยู่ธนาคารนี้ได้ดอกเบี้ยเท่าไร
ช่องทางสื่อสารเข้าไป เรามีหนังสือพิมพ์รังสิตโพสต์ ออกทุก 1 เดือน เราจะแจก มันมีความแตกต่างหรือความยากง่ายต่างจากท้องถิ่นในชนบทแบบไหนบ้าง คิดเพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้ประชาชนของเราตลาดน�้านครรังสิตคือตัวอย่าง เมื่อก่อนเงินฝากของราชการเราไม่ได้สนใจว่าจะฝากอยู่ที่ไหน ระเบียบว่าอย่างไรเรา
ทุกบ้าน อย่างน้อยที่สุดคนในเมืองของเราเขาก็จะมีช่องทางข่าวสารอีก 1 ช่องทาง หนึ่ง นอกจากนี้เรายังจัดให้มีการฝึกอาชีพต่างๆ อย่างถ้าเป็นกลุ่มเด็กๆ เสาร์-อาทิตย์ ก็ท�าตามนั้น แต่วันนี้เราเองต้องเป็นนักการเงิน เราต้องมานั่งดู ฝากปีหนึ่ง เรามีเงิน
เราพยายามเชื่อมโยงเครื่องมือสารสนเทศผ่านระบบเว็บไซต์ หรือช่องทางต่างๆ เรา นำยกฯ ธีรวุฒิ เรื่องการมีส่วนร่วม เราก็ต้องไปดูว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องอะไร อาทิ เด็กๆ ในเขตเราเรียนกีตาร์ เรียนขิม ฟรี ผมจ้างครูมาสอนให้ เรื่องสันทนาการในเขต อยู่ก้อนหนึ่ง เป็นเงินที่ต้องกันไว้ตามกฎหมายตามระเบียบ เงินก้อนนี้เอาไปใช้อะไร
ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา นี่คือตัวอย่างของความแตกต่างในความเป็นเมือง เราไปปรับปรุงสาธารณูปโภคสักอย่างหนึ่ง กระบวนการเราก็ไม่ได้เหมือนกับเทศบาล เมืองก็ต้องจัด จะเห็นว่าแต่ละเรื่องเราท�าหลายมิติ เรื่องการศึกษาในเขตเมืองเรา ไม่ได้ก็จริง แต่เราก็ต้องหาดอกผลที่มันเหมาะสม ธนาคารนี้ให้เท่าไร เราควรจะน�า
อื่นๆ จริงๆ เรามีกระบวนการที่ละเอียดกว่า เรามีการท�าแผนชุมชน เราท�าประชาคม จะพัฒนาอะไรให้เด็ก ต้องคิดนะครับ จะท�าการเกษตรก็ไม่ใช่ เราต้องมานั่งคิดว่า ไปฝากไว้กับธนาคารไหน อีกกี่เดือนถึงจะต่อรองกับธนาคาร หรือจะโยกเงินก้อนนี้ไป
ผู้น�ำท้องถิ่น ท่านนายกฯ พูดเรื่องประชากรแฝงซึ่งก็คือปัญหาคลาสสิกของเมือง เรามีกิจกรรมรับรู้ความคิดเห็นในหลายช่องทาง ยกตัวอย่าง สภำกำแฟ ลักษณะ เด็กมีปัญหาอะไร ปัญหาสังคมที่พ่อแม่เลิกกัน อยู่กับปู่ย่า ท�าการบ้านไม่มีคนสอน อย่างไร เพราะมันมีผลกับการเพิ่มดอกผลในเชิงเทคนิค ควรจะกันเอาไว้เพื่อบริหาร
เจริญ ประชากรแฝงคือรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นของท้องถิ่น เพิ่มปัญหา เพิ่มอะไรหลายอย่าง ก็คือ เราจะวนไปตามชุมชนเดือนละครั้ง จัดวนไปเรื่อยๆ ชวนชุมชนมานั่งคุย เป็น ตามไม่ทัน อ่านหนังสือไม่ออก เราก็หาครูที่มีจิตอาสามาสอนให้เขา อาจจะใช้ที่ของ เงิน เพราะจริงๆ เราก็มีธุรกิจด้วยอย่างเช่น โรงรับจ�าน�า มันก็ต้องมีเงินส่วนนี้ที่จะมาส
เราอยากถามมุมมองของท่านในการให้บริการกับคนกลุ่มนี้ ถามตรงๆ ครับว่ามีการ ลักษณะที่ไม่เป็นทางการมากนัก มีหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าฝ่าย ผอ.กอง ปลัดฯ ศูนย์เด็กเล็ก หรือบางทีก็ใช้ที่บ้านครู เราก็จ้างชั่วโมงละ 150 ซึ่งจริงๆ น้อยมาก เรามี นับสนุน อย่างในช่วงเปิดเทอม เราก็ต้องมีเงินมา มันคือการลงทุนและท�าธุรกิจ คือถ้า
แอบแบ่งระดับการให้บริการบ้างหรือเปล่า รองปลัดฯ คณะผู้บริหารทั้งหมดไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผมที่ลงไปพูด เราก็ลงไปบ้าน อีกส่วนหนึ่ง คือครูสอนเด็กเร่ร่อน เด็กที่ไม่มีโอกาสได้เรียน ก็จะมีครูลงไป เอากระดาษ เราบริหารไม่ดี เงินก็ไม่พอที่จะปล่อยกู้ให้กับคนที่ต้องใช้บริการโรงรับจ�าน�า หรือเรา
เขา เช้ามาเลี้ยงข้าวต้ม นั่งกินข้าวต้มกัน หรือสั่งกาแฟมาดื่ม ก็ใช้เวลาคุยกันไปเรื่อยๆ หนังสือ สมุดไป รวมตัว เด็กเร่ร่อนบางส่วน บางทีไม่ใช่เด็กเร่ร่อนนะ เป็นเด็กที่อยู่ ต้องไปกู้คนอื่นเขาแทนที่เรามีเงินอยู่แต่เราเอาไปฝากประจ�า เราต้องไปกู้เงินอีกก้อน
นำยกฯ ธีรวุฒิ คือจริงๆ แล้วมันก็มีบริการหลายอย่างที่จัดให้กับคนทุกๆ คน แต่ก็ สัก 3-4ชั่วโมง เราลงไปสื่อสารท�าความคุ้นเคยกับชาวบ้าน รับฟังปัญหาของเขา และ ตามบ้านแต่ไม่ได้เรียน ก็จะให้ครูไปสอน ไปกระตุ้น พอเราไปเจอปุ๊บในจังหวะที่เรา มาปล่อยกู้ อันนั้นแสดงว่าเราบริหารจัดการเงินไม่ได้ เราต้องมีแผนบริหารจัดการ
มีการแยกประเภท แยกลักษณะ หรือมีความเฉพาะของการจัดบริการ โดยภาพรวม ก็บอกเล่าสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารไปพร้อมกัน ส่วนอีกโครงการที่เป็นตัวอย่างก็คือ เอาเข้าระบบได้ ครูก็มีหน้าที่ไปดึงเด็กเข้าระบบ ก็เข้ามาได้เยอะพอสมควร อันนี้ เงิน สุดท้ายแล้วเทศบาลไม่ได้มีหน้าที่เป็นหน่วยใช้เงินเหมือนหน่วยราชการอื่น หน่วย
แล้วเทศบาลไม่ใช่เลือกปฏิบัติ ในบางเรื่องที่สามารถจัดบริการให้ได้เป็นปกติ เราก็จัด คือการศึกษาที่เราต้องเสริมจากปกติ นี่คือตัวอย่างของวิธีคิดที่ต้องลงลึกถึงปัญหาที่ ราชการอื่น กระทรวง ทบวง กรม พอเอาเข้าสภา ครม. ครม.อนุมัติ เขาก็มีหน้าที่ใช้
หลากหลายของความเป็นเมืองใหญ่ เราต้องคิดต้องเติมอยู่ตลอดเวลา
172 นครรังสิตของเรา นครรังสิตของเรา 173