Page 67 - (2)100 ถามตอบเรื่องวินัย 4-7-2559
P. 67
๑๐๐ ปัญหาถาม - ตอบ เรื่องวินัย 67
- 61 -
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตส าหรับมาตรา ๘๕ (๖) นี้ คือ การได้รับ
โทษจ าคุก หมายถึง คดีถึงที่สุดโดยค าพิพากษาของศาลในประเทศไทยให้จ าคุกและ
ไม่รอการลงโทษหรือรอการก าหนดโทษหรือยกโทษจ าคุกหรือเปลี่ยนโทษจ าคุก
เป็นโทษสถานอื่น และหมายความรวมถึงกรณีที่ศาลมีค าพิพากษาให้จ าคุก โดยอ่าน
ค าพิพากษาลับหลังจ าเลย เนื่องจากจ าเลยหลบหนีด้วย นอกจากนี้แม้ กรม ข
จะสามารถด าเนินการทางวินัยกับข้าราชการผู้นี้ในความผิดตามมาตรา ๘๕ (๖)
ได้ก็ตาม แต่ก็มีประเด็นให้พิจารณาด้วยว่า การที่ข้าราชการผู้นี้ถูกศาลพิพากษา
ถึงที่สุดให้จ าคุกนั้น จะถือเป็นเหตุเป็นผู้ขาดคุณสมบัติกรณีมีลักษณะต้องห้าม
ตามมาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ด้วย
หรือไม่ เช่น ตามมาตรา ๓๖ ข (๔) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ.๒๕๕๑ ผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม ดังนั้น หากศาล
มีค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกข้าราชการผู้นี้ กรม ข จึงอาจมีทางเลือก ๒ ทาง คือ
๑) ด าเนินการทางวินัยฐานกระท าความผิดอาญาจนได้รับโทษจ าคุกหรือโทษที่หนักกว่า
จ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกหรือให้รับโทษที่หนักกว่าโทษจ าคุกตามมาตรา
๘๕ (๖) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑ หรือ
๒) พิจารณาว่าข้าราชการผู้นี้เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
ตามมาตรา ๓๖ ข (๔) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ หากใช่ก็อาจสั่งให้
ออกจากราชการตามมาตรา ๖๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
พ.ศ.๒๕๕๑ ได้
/๙๐ คําถาม...