Page 18 - ดวงพิชัยสงคราม
P. 18
พระมหาอุปราชา เมื่อทรงได้ยินดังนั้นก็ขับพลายพัทธกอซึ่งเป็น
พระคชาธาร ออกมาชนกับเจ้าพระยาไชยานุภาพ พระคชาธารของ
สมเด็จพระนเรศวร ในชั้นแรก เจ้าพระยาไชยานุภาพเสียที พลายพัทธกอ
ได้ล่างแบกรุน พระยาไชยานุภาพเบนจะขวางตัว พระมหาอุปราชาได้ทีฟัน
ด้วยพระแสงของ้าว สมเด็จพระนเรศวรเบี่ยงพระองค์หลบทัน ถูกแต่
พระมาลาหนังขาดลิไป พอพระยาไชยานุภาพสะบัดหลุด แล้วกลับชนได้
ล่างแบกถนัดรุนพลายพัทธกอหัวเบนไป สมเด็จพระนเรศวรก็จ้วงฟัน
ด้วยพระแสงของ้าว ถูกพระมหาอุปราชาที่ไหล่ขวาขาด สิ้นพระชนม์อยู่
บนคอช้าง ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถก็ได้ชนช้างกับเจ้าเมืองจาปะโร และ
ฟันเจ้าเมืองจาปะโรตายเช่นกัน ทหารพม่าก็เข้ามากันพระศพพระมหาอุป
ราชา และเจ้าเมืองจาปะโรออกไป แล้วเข้าระดมยิงถูกสมเด็จพระนเรศวรที่
พระหัตถ์ได้รับบาดเจ็บ และถูกนายมหานุภาพควาญช้างพระที่นั่ง กับหมื่น
ภักดีศวรกลางช้างสมเด็จพระเอกาทศรถ ตายทั้งสองคน ขณะนั้น
กองทัพเจ้าพระยามหาเสนา พระยาสีหราชเดโชชัยตามไปทัน ก็ช่วยกันรบ
พุ่งแก้กันทั้งสองพระองค์ออกมาได้ สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่า
กองทัพข้าศึกแตกเฉพาะทัพหน้า ก�าลังฝ่ายไทยที่ตามเสด็จไปถึงเวลานั้นมี
น้อยนัก จึงจ�าต้องเสด็จกลับมาค่ายหลวง ฝ่ายข้าศึกก็เชิญพระศพ
พระมหาอุปราชา เลิกทัพกลับไปเมืองหงสาวดี เหตุการณ์ในตอนนี้ วัน
วลิต ได้บรรยายไว้ว่า
ช้างข้าศึกพยายามเอางาเสยพระคชาธารให้ถอยห่างอยู่ตลอด
เวลา แต่ในที่สุดพระคชาธารซึ่งเล็กกว่าก็ได้ทีช้างข้าศึก โดยช้างข้าศึก
ไม่ทันรู้ตัว ขึ้นเสยช้างข้าศึกแล้วเอางวงตีด้วยก�าลังแรงยิ่งนัก จนช้าง
ข้าศึกร้องขึ้น กษัตริย์มอญก็ตกพระทัย กษัตริย์ไทยเห็นได้ทีก็เอา
พระแสงขอ ตีต้องพระเศียรกษัตริย์มอญ แล้วใช้พระแสงทวนแทงจน
กษัตริย์มอญตกช้างสิ้นพระชนม์ แล้วทรงจับช้างทรงของกษัตริย์
มอญนั้นไว้ได้ ทหารรักษาพระองค์ซึ่งตามมาโดยไม่ช้า ก็แทงชาวโปรตุเกส
ซึ่งนั่งอยู่เบื้องหลังกษัตริย์มอญนั้นตาย เมื่อกองทัพมอญเห็นกษัตริย์
ของตนสิ้นพระชนม์ ก็พากันล่าถอยไม่เป็นกระบวน กองทัพไทยก็ไล่
ติดตามไปอย่างกล้าหาญ จับเป็นได้เป็นจ�านวนมาก ฆ่าตายเสียก็มาก ที่
เหลือนั้นก็แตกกระจัดกระจายไปประดุจแกลบต้องลม ทหารมอญหลาย
พันคนต้องตกค้างอยู่ และเมื่อต้องถอยทัพกลับโดยที่ขาดแคลนเสบียง
อาหาร จึงกลับไปถึงเมืองมอญได้น้อยคนนัก
18 ดวงพิชัยสงคราม