Page 15 - ดวงพิชัยสงคราม
P. 15
ครั้นถึงวันแรม 1 ค�่า เดือนยี่ พระยาศรีไสยณรงค์บอกมากราบ
ทูลว่า ข้าศึกยกกองทัพใหญ่พ้น บ้านจรเข้สามพันมาแล้ว สมเด็จพระ
นเรศวรจึงมีรับสั่งให้กองทัพทั้งปวง เตรียมตัวรบข้าศึกในวันรุ่งขึ้น
แล้วสั่งให้พระยาศรีไสยณรงค์ ยกออกไปหยั่งก�าลังข้าศึก แล้วให้ถอย
กลับมา
ในวันจันทร์ แรม 2 ค�่า เดือนยี่ สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จ
พระเอกาทศรถ ทรงเครื่องพิชัยยุทธ ให้ผูกช้างพระที่นั่งชื่อ พลาย
ภูเขาทอง ขึ้นระวางเป็นเจ้าพระยาไชยานุภาพ เป็นพระคชาธารของ
พระองค์ มีเจ้ารามราฆพเป็นกลางช้าง นายมหานุภาพเป็นควาญ อีก
ช้างหนึ่งชื่อพลายบุญเรือง ขึ้นระวางเป็นเจ้าพระยาปราบไตรจักร เป็น
พระคชาธารสมเด็จพระเอกาทศรถ มีหมื่นภักดีศวรเป็นกลางช้าง ขุนศรี
คชคงเป็นควาญ พร้อมด้วย นายแวง จตุลังคบาท พวกทหารคู่พระทัย
ส�าหรับรักษาพระองค์
ขณะนั้นเสียงปืนจากการปะทะกัน ระหว่างทัพหน้าของไทย กับทัพ
หน้าของพม่าดังขึ้น พระองค์จึงด�ารัสให้จมื่นทิพเสนา ปลัดกรมต�ารวจ
เอาม้าเร็วไปสืบข่าว ได้ความว่า พระยาศรีไสยณรงค์ได้ยกก�าลังออกไป
และได้ปะทะกับข้าศึกที่ ต�าบลดอนเผาข้าวเมื่อเวลาเช้า ฝ่ายข้าศึกมีก�าลัง
มากต้านทานไม่ไหว จึงแตกถอยร่นมา สมเด็จพระนเรศวรจึงปรึกษา
แม่ทัพนายกองว่า สถานการณ์เช่นนี้ควรจะท�าอย่างไร บรรดาแม่ทัพ
นายกองทั้งหลายกราบทูลว่า ควรให้มีกองทัพหนุน ออกไปช่วยต้านทาน
ข้าศึกไว้ให้อยู่เสียก่อน แล้วจึงให้ทัพหลวงออกมาตีภายหลัง สมเด็จ
พระนเรศวรไม่ทรงเห็นชอบด้วย มีพระด�ารัสว่า กองทัพแตกลงมาเช่นนี้
แล้ว จะให้กองทัพไปหนุน ไหนจะรับไว้อยู่ มาปะทะกันเข้าก็จะพากันแตกลง
มาด้วยกัน ควรที่จะล่าถอยลงมาโดยเร็ว เพื่อปล่อยให้ข้าศึกยกติดตาม
มาอย่างไม่เป็นกระบวน พอได้ทีให้ยกก�าลังส่วนใหญ่เข้าโจมตีข้าศึก ก็
คงจะได้ชัยชนะโดยง่าย สมเด็จพระนเรศวรจึงมีรับสั่งให้จมื่นทิพเสนา กับ
จมื่นราชามาตย์ ขึ้นม้าเร็ว รีบไปประกาศแก่พวกกองทัพหน้าของไทยว่า
อย่าได้รั้งรอข้าศึก ให้รีบล่าถอยหนีไปโดยเร็ว กองทัพหน้าของพระยา
ศรีไสยณรงค์ก็พากันถอยหนีไม่เป็นกระบวน ข้าศึกเห็นดังนั้น ก็พากันรุก
ไล่ลงมาด้วยเห็นได้ที จนไม่เป็นกระบวนเช่นกัน
ดวงพิชัยสงคราม 15