Page 286 - โครงการ1-10 ป๋อม
P. 286
275
9. หากจ าเป็นต้องตักเตือนหรือแก้ไขพฤติกรรมของผู้ที่รู้จัก ควรท าอย่างรวดเร็ว รวบรัด และ
หากมีโอกาสอยู่ตามล าพังควรปรับความเข้าใจกัน
10. ก่อนที่จะลากันไปขอให้ต่างฝ่ายได้พูดในสิ่งที่คับ้องหมองใจ เพื่อจะได้ทราบมูลเหตุของปัญหา
และเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน
11. จงไกล่เกลียเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีความรู้สึกที่ดีต่อกันด้วยการเผชิญหน้า พยายามฟังให้มาก
เพื่อให้อีกฝ่ายได้ระบายความรู้สึกอัดอั้น อารมณ์ที่ถูกกดต้นจะได้ระบายออกและรู้สึกดีขึ้น
12. เมื่อใช้ยุทธวิธีทุกอย่างเพื่อขจัดความขัดแย้งแล้ว พยายามติดตามพฤติกรรมของแต่ละผ้ายว่า
เปลี่ยนไปในทางดีมากน้อยเพียงใด
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรเก็บหรือบ่มเพาะความขัดแย้งนั้นไว้ จะต้องหาวิธี
ลดความขัดแย้งนั้นโดยการเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนสภาพแวดล้อม อาจจะหาแนวทางเรียนรู้ข้อมูล
ใหม หรืออีกทางหนึ่งคือต้องจ่ายอมต่อความขัดแย้ง เพื่อผลที่ตามมาจะได้เกิดผลกระทบหรือสูญเสียที่
น้อยกว่า
การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนั้น เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มนุษย์จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น อยู่เสมอ
ในชีวิตและต้องมีวิธีการจัดการกับความขัดแย้งได้เสมอเหมือนกับเป็นสัญชาตญาณ แต่เมื่อใดที่ใช้
ความรู้หรือหลักวิชาเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งเหล่านั้น ผลที่ตามมาจะท าให้เกิดผลดีกับ
ทุกฝ่ายในองค์การจะเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานหรือบริหารงาน ทุกคนในองค์การนั้นจะมี
ความสัมพันธ์ที่ดี
10.7 วิธีการลดความขัดแย้งภายในองค์การ
บุคลากรในองค์การล้วนมีความแตกต่างกันทั้งในด้านค่านิยม วัฒนธรรม เป้าหมาย วิธีการท างาน
ซึ่งน าไปสู่การคิด ความรู้สึก การกระท าต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดแตกต่างกันโดยทั่วไปความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน
องค์การมักจะเป็นความขัดแย้งระหว่างบุคคล ซึ่งจะน าไปสู่ทั้งผลดีและผลเสีย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
ความชัดแย้งในระดับที่เป็นขันตราย ผู้บริหารสามารถจัดระเบียบความขัดแย้งให้เหมาะสมเพื่อลด
ความขัดแย้งภายในองค์การโดยนิยมปฏิบัติดังนี้
1. การประชุมผู้เกี่ยวข้อง