Page 284 - โครงการ1-10 ป๋อม
P. 284

273







                                     2. ความขัดแย้งท าให้ทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะมียคติแบบ ความฝังใจในทางลบกับฝ่าย
                       ตรงข้าม (Negative Stereotype)


                                     3. ความขัดแย้งน าไปสู่การติดปึดกลุ่มหรือฝ่ายของตนเองมากเกินไปและมองอีกฝ่ายหนึ่ง

                       เป็นศัตรู ซึ่งท าให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเข้ากันได้ยิ่งกว่าเดิม


                          10.5.2  ผลดีของความขัดแย้ง


                                     ผลดีของความขัดแย้ง (Positive Effects of Conflict) ความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน

                       ทุกสังคม ทุกกลุ่ม หากท าให้ผลความขัดแย้งเป็นบวก เป็นลักษณะเชิงสร้าสรรค์ต่อองค์การแล้วผลดีที่
                       จะเกิดขึ้นคือ


                                     1. ความขัดแย้งท าให้ปัญหาที่ชุกช่อนอยู่ปรากฏออกมาให้รับรู้โดยทั่วกัน ซึ่งจะท าให้มีการ

                       แก้ไขปัญหานั้นต่อไป


                                     2. ความขัดแย้งจูงใจให้ผู้ที่ชัดแย้งกันทั้งสองฝ่ายรู้จักและเข้าใจสถานภาพของกันและกัน

                       มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะน าไปสู่ความมีใจกว้างและยอมรับฟังผู้อื่น

                                     3. ความขัดแย้งมักจะท าให้เกิดการน าแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ ไปพิจารณา ซึ่งช่วยท าให้

                       เกิดนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง


                                     4. ความขัดแย้งสามารถน าไปสู่การตัดสินใจที่ดีกว่า เพราะเมื่อผู้ตัดสินใจได้รับข้อมูลที่ไม่

                       ตรงกับข้อมูลเดิม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีความขัดแย้งกับอีกฝ่ายหนึ่ง ก็จะตัดสินใจท าสิ่งที่ดีกว่า การ

                       ตัดสินใจหลังจากการเกิดความขัดแย้งและน าข้อมูลจากฝ่ายตรงข้ามมาพิจารณานั้น มีแนวโน้มว่าจะ

                       ถูกต้องมากกว่าการตัดสินใจเมื่อไม่มีความขัดแย้งเลย

                                     5. ความขัดแย้งเสริมสร้างความจงรักภักดีภายในกลุ่ม เพิ่มแรงจูงใจและความสามารถใน

                       การปฏิบัติงานภายในกุ่มได้ เมื่อแต่ละคนพยายามที่จะเอาชนะคู่แข่งขัน และถ้าความพยายามเอาซนะ

                       นั้นไม่รุนแรงจนเกินไป ก็จะเกิดประโยชน์ต่อองค์การ


                                     6. ความขัดแย้งที่มีลักษณะเป็น "ความขัดแยังทางปัญญา" (Cognitive Conflict) และมี

                       การอภิปรายกันด้วยหลักการและเหตุผลอย่างหลากหลาย แต่ละฝ่ายร่วมกันเสนอแนวคิด จะท าให้

                       บุคคลในองค์การอุทิศตนให้กับงานมากขึ้น แต่ถ้ามีการขัดขวางไม่ให้แสดงความคิดเห็นจะท าให้ความ
                       พึงพอใจต่อ
   279   280   281   282   283   284   285   286   287   288   289