Page 9 - E-Book รายงานสรุปผลการประชุม
P. 9
รายงานสรุปผล การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อนำาเสนอความก้าวหน้าด้านการคุ้มครองทางสังคมการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติ
และกลยุทธ์ที่ดี เพื่อผลักดันให้มีการจัดสรรทรัพยากรด้านการเงินภายในประเทศด้านการคุ้มครองทางสังคมเพิ่มมากขึ้น
บทที่ ๑
บทนำา หลักคิด และการออกแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการ
๑.๑ หลักการและเหตุผล
การคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) เป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตของคนเรา ในระดับสากล
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization – ILO) ได้ให้นิยามของการคุ้มครอง
ทางสังคม หมายถึง เครื่องมือเพื่อให้ความคุ้มครอง หรือหลักประกันทางสังคมในด้านต่าง ๆ เช่น กฎหมาย
ระเบียบข้อบังคับ เป็นต้น โดยการมีระบบการคุ้มครองทางสังคมแบบถ้วนหน้า จะเป็นหลักประกันความมั่นคง
ทางสังคมให้แก่ทุกคน ซึ่งการคุ้มครองทางสังคมจะมีฐานการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection Floor)
อันเป็นชุดของสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้สมาชิกทุกคนในสังคม ได้มีโอกาส
ในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ขั้นพื้นฐานได้ตลอดเวลา โดยฐานการคุ้มครองทางสังคมครอบคลุมในประเด็นต่าง ๆ เช่น
ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขขั้นพื้นฐานโดยถ้วนหน้า เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการโภชนาการ การศึกษา
ประชาชนในวัยทำางานควรมีความมั่นคงทางรายได้ ผู้สูงอายุและผู้พิการมีความมั่นคงทางรายได้ สามารถดำารงชีวิต
อยู่ได้ เป็นต้น ซึ่งประเด็นสำาคัญที่เกี่ยวข้องประการหนึ่งของระบบการคุ้มครองทางสังคม คือ นโยบายของภาครัฐ
และการพิจารณาในด้านงบประมาณ การจัดสรรทรัพยากรด้านการเงิน เพื่อกำาหนดระบบการคุ้มครองทางสังคม
ได้อย่างครอบคลุม ทั่วถึง และสร้างโอกาสให้กับคนยากจนและผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้ประชาชนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
ทางสังคมสามารถดำาเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี และพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
ในระดับอาเซียน การคุ้มครองทางสังคม หมายถึง “การช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยนโยบายและ
แผนงานที่ออกแบบมาเพื่อลดความยากจน ความไม่เสมอภาคกัน และความเปราะบาง โดยการช่วยเหลือคนยากจน
บุคคลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำากัดเพียง คนพิการ ผู้สูงอายุ เยาวชน สตรี เด็ก ผู้ที่อยู่ในสภาวะ
ทุพโภชนาการ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ และแรงงานข้ามชาติ และรวมถึงการช่วยเหลือต่อครอบครัว
และชุมชน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้นและเพิ่มการเข้าถึงบริการที่สำาคัญ
และโอกาสต่าง ๆ โดยเสมอภาคกันตามแนวทางการทำางานฐานสิทธิ/ความต้องการจำาเป็น”
ที่ผ่านมาประเทศไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีบทบาทสำาคัญ
ในการผลักดันให้มีการจัดทำาเอกสารสำาคัญของอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การจัดทำาปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางมาตรการคุ้มครองทางสังคม (ASEAN Declaration
on Strengthening Social Protection) ซึ่งผู้นำาอาเซียนได้มีการรับรอง ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๓
เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ประเทศบรูไนดารุสซาลาม ปฏิญญาดังกล่าวเป็นเครื่องมือยืนยันว่าทุกคนในสังคม โดยเฉพาะ
คนยากจน กลุ่มเสี่ยง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็กที่ไม่ได้เข้าเรียน เด็ก แรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน และกลุ่มคนเปราะบางอื่น ๆ
จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคมซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้
ผู้นำาอาเซียน ยังได้รับรองกรอบการทำางานในระดับภูมิภาคและแผนการดำาเนินการตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วย
การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางมาตรการคุ้มครองทางสังคม (Regional Framework and Action Plan to
Implement the ASEAN Declaration on Strengthening Social Protection) ในการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๒๗ ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการแปลงปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้าง
ความเข้มแข็งทางมาตรการคุ้มครองทางสังคมไปสู่การปฏิบัติ
7