Page 3 - GES2205 นันทนาการเพื่อคุณภาพชีวิต
P. 3
G E S 2 2 0 5 นั น ท น า ก า ร เ พื่ อ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต | 3
บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานด้านปรัชญานันทนาการ
บทน า
ค าว่า “ปรัชญา” ตามความหมายของนักปรัชญากลุ่มตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักปราชญ์ชาว
อินเดีย และปรัชญาเหล่านั้นต่อมาได้กลายเป็นพุทธปรัชญา และค าว่า ปรัชญาจึงมีเค้ามาจากภาษา
สันสกฤต ประกอบด้วยรูปศัพท์ 2 ศัพท์ คือ
ปฺร แปลว่า “ประเสริฐ”
ชฺญา แปลว่า “ความรู้”
ปรัชญาจึงแปลได้ว่า “ความรู้อันประเสริฐ” หมายถึงความรู้อันเป็นขั้นที่สูงสุด ไม่มีปัญหาที่จะต้อง
มีการคิดหรือการหาค าตอบอะไรต่อไปอีก หมายความว่า ความรู้ที่น ามนุษย์ข้ามแดนแห่งความมืดมนแห่ง
ชีวิต เป็นความรู้ทั้งทางโลกียธรรมและทางโลกุตรธรรม จึงสรุปได้ว่า “เป็นความรู้ภายหลังเมื่อสิ้นความสงสัย
แล้ว”
ปรัชญาตามความหมายของนักปรัชญากลุ่มตะวันตกกล่าวว่า “ปรัชญามิใช่องค์ความรู้ ปรัชญา
มิใช่ปัญญา แต่เป็นกิจกรรมทางปัญญา เป็นพฤติกรรมตามหลักเหตุผล เป็นทางไปสู่ปัญญา ส่วนปัญญา
มิใช่ความรู้ แต่เป็นความรอบรู้ในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง รวมทั้งปรากฏการณ์ของสิ่งเหล่านั้นด้วย
มูลเหตุของปรัชญา อริสโตเติล กล่าวว่า ปรัชญามีมูลเหตุมาจากความประหลาดใจและความสงสัย
ความประหลาดใจเป็นบ่อเกิดแห่งปรัชญา การที่นักปรัชญามองเห็นสิ่งต่าง ๆ โดยรอบตัว ในจักรวาล เช่น
เห็นดวงอาทิตย์ ดวงดาวในท้องฟ้าท าให้เกิดความแปลกใจ และเกิดความปรารถนาที่จะค้นคว้าหาความจริง
เกี่ยวกับจักรวาล เพื่อที่จะให้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร ท าไมจึงเป็นเช่นนั้น และเมื่อได้ศึกษาจึงสรุปได้ว่า
“ปรัชญา” คือกิจกรรมทางปัญญานั้นเอง
ปรัชญามีลักษณะเฉพาะด้าน 3 ประการ คือ 1) ปรัชญาที่มีลักษณะวิพากษ์ วิจารณ์ ซึ่งเป็นการ
วิพากษ์ วิจารณ์ ที่ท าให้เกิดความรู้สึก ท าให้เกิดปัญญา และปัญญาดังกล่าวน าไปสู่การปฏิบัติ และเกิด
เป็นทฤษฎีขึ้นในที่สุด 2) ปรัชญาที่เกิดจากปัญหา ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐาน และเป็นปัญหาที่ยังไม่ยุติ ไม่
เด็ดขาดแน่นอนยังต้องการการค้นหาความจริงที่สะท้อนปัญหาที่แท้จริง 3) ปรัชญาที่แสวงหาโลกทัศน์ โลก
ทัศน์คือความเชื่ออันเป็นระบบ หรือเป็นทัศน์พื้นฐาน และเป็นตัวก าหนดทิศทางของชีวิตของมนุษย์
ตลอดจนทิศทางสังคมมนุษย์ มีจุดยืนเป็นพื้นฐานรับรองความเชื่อพื้นฐานในเรื่องต่าง ๆ ท าให้เกิดความเชื่อ
เป็นระบบขึ้น