Page 61 - DoiSuthep
P. 61
61
อนึ่ง นามของสุกกทันตะนี้ นักวิชาการด้านหริภุญไชยศึกษาหลายท่านมี
ความเห็นว่า น่าจะแผลงมาจากคำาว่า “สกันทา” (Skandha) หรือ “ขันทกุมาร”
หนึ่งในเทพปกรณัมฮินดูที่มีศักดิ์เป็นโอรสของพระศิวะ (พระอิศวร) ต้นลัทธิไศวนิกาย
ซึ่งเป็นอีกลัทธิหนึ่งที่แพร่หลายมากจากอินเดียสู่สุวรรณภูมิในขณะนั้น
ในที่สุดสหายสุกกทันตะได้ทูลเชิญพระนางจามเทวี ผู้เป็นลูกศิษย์ที่ตนสอน
สรรพวิชาความรู้ ณ เขาสมอคอน โดยตำานานระบุว่าพระนางจามเทวีเป็นราชธิดา
ละโว้ ให้ขึ้นมาครองเมืองหริภุญไชยที่สหายวาสุเทพสร้างไว้ พระนางจามเทวียินดี
รับคำาเชิญ จึงได้ยกขบวนนำากลุ่มชนชาวมอญจากลุ่มน้ำาเจ้าพระยาจำานวนหลายพัน
ชีวิตขึ้นมายังเมืองเหนือ
หลายท่านเชื่อว่าพระนางจามเทวีน่าจะมีเชื้อสายตระกูล “ออสโตรเอเชียติก”
คือกลุ่มมอญ-เขมร เมื่อขบวนเสด็จของพระนางจามเทวีจำานวนกว่า 7,500 ชีวิตต้อง
ขึ้นจากทางใต้สู่ขุนน้ำาทางเหนือ แน่นอนว่าย่อมสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชากร
ชาวลัวะที่อาศัยอยู่ก่อน ทำาให้ในที่สุดชาวลัวะเจ้าของถิ่นเก่าจำาต้องถอยร่นขึ้นหนี
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหริภุญไชยไกลถึงเชิงดอยสุเทพ เป็นการหนี
ไปตั้งหลักในลักษณะ “พร้อมที่จะทวงแผ่นดินคืน”