Page 116 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 116
108
พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๑๘
มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
ึ
มำตรำ ๑๒ ให้กรรมกำรในคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองซ่งด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท ่ ี
รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๕0 สิ้นสุดลง ยังคงอยู่ในต�ำแหน่งต่อไปจนกว่ำจะครบ
วำระในวันที่ ๑9 เมษำยน พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ประธำนกรรมกำรและกรรมกำรในคณะกรรมกำรตุลำกำร
ศำลปกครองดังกล่ำวเป็นคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและ
ั
วิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
ี
ในกรณีท่มีกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองตำมวรรคหน่งพ้นจำกต�ำแหน่งก่อนครบวำระในระหว่ำง
ึ
วันที่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๕0 สิ้นสุดลง จนถึงวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ี
ู
ื
ุ
ให้ประธำนศำลปกครองสงสดดำเนินกำรให้มกำรเลอกซ่อมกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองผ้ทรงคุณวุฒ ิ
ู
�
ี
ซ่งเป็นตุลำกำรศำลปกครองแทนต�ำแหน่งท่ว่ำง ให้แล้วเสร็จภำยในส่สิบห้ำวันนับแต่วันท่พระรำชบัญญัต ิ
ึ
ี
ี
น้ใช้บังคับ และเม่อได้มีกำรเลือกซ่อมแล้ว ให้คณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองประกอบด้วยกรรมกำร
ี
ื
ตุลำกำรศำลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับกำรเลือกซ่อมนี้ด้วย
ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดด�ำเนินกำรให้มีกำรเลือกกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองผู้ทรงคุณวุฒ ิ
ี
ซ่งได้รับเลือกจำกวุฒิสภำและคณะรัฐมนตรีใหม่แทนต�ำแหน่งท่ว่ำงลงเพรำะครบวำระก่อนวันท่พระรำช-
ี
ึ
ี
บัญญัติน้ใช้บังคับ โดยให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดแจ้งต่อประธำนสภำนิติบัญญัติแห่งชำติ ซ่งท�ำหน้ำท ี ่
ึ
ประธำนวุฒิสภำและนำยกรัฐมนตรีเพื่อทรำบภำยในเจ็ดวันนับแต่วันพระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เพื่อด�ำเนิน
กำรเลือกให้แล้วเสร็จภำยในส่สิบห้ำวันนับแต่วันท่ได้รับแจ้งและเม่อได้มีกำรเลือกแล้วให้คณะกรรมกำร
ื
ี
ี
ตุลำกำรศำลปกครองประกอบด้วยกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้เลือกนี้ด้วย
ให้น�ำควำมในมำตรำ ๓๕/๑ มำตรำ ๓๖ มำตรำ ๓๗ มำตรำ ๓๘ และมำตรำ ๓9 มำตรำ ๓9/๑
และมำตรำ ๔0 แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้มำใช้บังคับ โดยอนุโลม
มำตรำ ๑๓ มติหรือกำรให้ควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองตำมมำตรำ ๑๒
ี
ท่ได้มีมติหรือให้ควำมเห็นชอบของในระหว่ำงวันก่อนวันท่รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช
ี
ี
ี
ิ
๒๕๕0 ส้นสุดลง จนถึงวันก่อนวันท่พระรำชบัญญัติน้ใช้บังคับ ให้ถือว่ำเป็นมติหรือกำรให้ควำมเห็นชอบ
ของคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครอง
มำตรำ ๑๔ ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับน้ คือ โดยท่องค์ประกอบของคณะกรรมกำร
ี
ี
ตุลำกำรศำลปกครองท่ผ่ำนมำได้บัญญัติไว้เฉพำะในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๔0
ี
ั
และรฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๕0 โดยมิได้บัญญัติไว้ในพระรำชบัญญัตจัดต้ง
ิ
ั
ศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ สมควรก�ำหนดบทบัญญัติเก่ยวกับองค์ประกอบ
ี
๑๑๘ รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๑/ตอนที่ ๗9 ก/หน้ำ ๔/๔ ธันวำคม ๒๕๕๗