Page 117 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 117

109





            ของคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองไว้ในพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                                                               ั
                                   ิ
            พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพ่มเติมคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ำม วิธีกำรเลือกและกำรพ้นจำกต�ำแหน่ง
            ของกรรมกำรตุลำกำรศำลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิให้สอดคล้องกับกำรก�ำหนดบทบัญญัติดังกล่ำวจึงจ�ำเป็น
            ต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้



            พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9 ๑๑9
                  มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเม่อพ้นก�ำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
                                                 ื
            เป็นต้นไป

                  มำตรำ ๘ บรรดำคดีที่อยู่ในระหว่ำงกำรบังคับให้เป็นไปตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำลปกครอง
                                                                                               ้
                                                                                               ั
               ู
                                       ั
                                          ี
            อย่ในวนก่อนวันท่พระรำชบัญญติน้ใช้บังคับ ให้ด�ำเนินกำรบังคับให้เป็นไปตำมพระรำชบัญญัติจัดตง
                  ั
                           ี
            ศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัตินี้
                  มำตรำ 9 ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
                                                                        ี
            หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับน้ คือ โดยท่ปัจจุบันกำรด�ำเนินกำรบังคับ
                                                               ี
            คดีปกครองยังมีข้อขัดข้อง เนื่องจำกกฎหมำยไม่ได้ก�ำหนดรำยละเอียดในกำรด�ำเนินกำรบังคับคดีปกครอง
            ให้ครอบคลุมคดีปกครองทุกประเภท ซ่งคดีปกครองมีลักษณะเฉพำะไม่สำมำรถน�ำหลักกำรของกำรบังคับ
                                           ึ
            คดีแพ่งมำใช้ในกำรด�ำเนินกำรบังคับคดีให้มีประสิทธิภำพในทุกกรณีได้ อีกท้งไม่มีบทบัญญัติก�ำหนดอ�ำนำจ
                                                                        ั
                     ี
            และหน้ำท่ของเจ้ำพนักงำนบังคับคดี ตลอดจนมำตรกำรท่จะบังคับให้หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำท ี ่
                                                          ี
                                                                                   ั
            ของรัฐปฏิบัติตำมค�ำบังคับของศำลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วนภำยในเวลำอันสมควร อีกท้งสมควรก�ำหนด
            ให้ในกรณีที่มีกำรอุทธรณ์ค�ำพิพำกษำของศำลปกครองชั้นต้น คู่กรณีฝ่ำยชนะคดีที่ก�ำหนดอำจยื่นค�ำขอต่อ
            ศำลปกครองชั้นต้นหรือศำลปกครองสูงสุดแล้วแต่กรณี เพื่อให้มีกำรปฏิบัติตำมค�ำบังคับได้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้
                                                                        ั
                                           ิ
            ประชำชนต้องรอกำรปฏิบติตำมค�ำพพำกษำในระหว่ำงกำรพิจำรณำคดีช้นอุทธรณ์ จึงจ�ำเป็นต้องตรำ
                                  ั
            พระรำชบัญญัตินี้

            พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. ๒๕๖0 ๑๒0
                  มำตรำ ๒ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
                  มำตรำ ๓๖ เพ่อประโยชน์ในกำรนับจ�ำนวนตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดตำมมำตรำ ๑๕
                               ื
                                 ั
            แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่งแก้ไขเพ่มเติมโดย
                                                                                 ึ
                                                                                        ิ
            พระรำชบัญญัตินี้ ให้ถือว่ำ
                                                                                   ี
                  (๑) ตุลำกำรศำลปกครองสูงสุดท่ด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท่พระรำชบัญญัติน้ใช้บังคับและเคย
                                            ี
                                                                     ี
            ด�ำรงต�ำแหน่งตุลำกำรศำลปกครองช้นต้นมำก่อน เป็นตุลำกำรศำลปกครองสูงสุดตำมมำตรำ ๑๕ วรรคหน่ง (๑)
                                                                                           ึ
                                        ั
                  ๑๑9  รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๓/ตอนที่ ๓๖ ก/หน้ำ ๑/๒๖ เมษำยน ๒๕๕9
                  ๑๒0  รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๔/ตอนที่ 9๘ ก/หน้ำ ๕/๒๖ กันยำยน ๒๕๖0
   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122