Page 175 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 175
167
ี
ี
ี
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับน้ คือ โดยท่ปัจจุบันบทบัญญัติเก่ยวกับ
กำรบังคับทำงปกครองตำมกฎหมำยว่ำด้วยวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครองยังไม่มีประสิทธิภำพในกำรบังคับ
ั
ี
ึ
ใช้ โดยเฉพำะกำรบังคับตำมค�ำส่งทำงปกครองท่ก�ำหนดให้ช�ำระเงิน ซ่งกฎหมำยว่ำด้วยวิธีปฏิบัติรำชกำร
ทำงปกครองก�ำหนดให้น�ำวิธีกำรยึด กำรอำยัด และกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สินตำมประมวลกฎหมำยวิธ ี
พิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม จึงไม่มีรำยละเอียดวิธีปฏิบัติและระยะเวลำในกำรบังคับทำง
ี
ึ
ปกครองท่ชัดเจน ซ่งก่อให้เกิดควำมไม่เป็นธรรมแก่ผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครอง ประกอบ
ี
ี
่
กบเจำหน้ำทของหน่วยงำนของรัฐส่วนใหญไม่มควำมเชยวชำญในกำรยึด กำรอำยด และกำรขำยทอดตลำด
ั
่
ี
่
้
ั
ี
ทรัพย์สิน อีกท้งไม่มีบทบัญญัติท่ให้อ�ำนำจแก่เจ้ำหน้ำท่ในกำรสืบหำทรัพย์สินและมอบหมำยให้หน่วยงำน
ี
ั
อ่นหรือเอกชนด�ำเนินกำรแทนได้ ส่งผลให้ไม่สำมำรถบังคับตำมค�ำส่งทำงปกครองท่ก�ำหนดให้ช�ำระเงินได้
ั
ี
ื
ี
ั
อย่ำงมีประสิทธิภำพและรัฐต้องสูญเสียรำยได้ในท่สุด ดังน้น สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ในกำรบังคับทำง
ปกครองเพื่อให้ชัดเจน มีประสิทธิภำพและเป็นธรรมยิ่งขึ้น จึงจ�ำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้