Page 179 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 179

171





                                    ี
                                                                                              ื
                  มำตรำ 11 ในกรณีท่ผู้เสียหำยเห็นว่ำ หน่วยงำนของรัฐต้องรับผิดตำมมำตรำ ๕ ผู้เสียหำยจะย่น
            ค�ำขอต่อหน่วยงำนของรัฐให้พิจำรณำชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนส�ำหรับควำมเสียหำยที่เกิดแก่ตนก็ได้ ในกำร
            น้หน่วยงำนของรัฐต้องออกใบรับค�ำขอให้ไว้เป็นหลักฐำนและพิจำรณำค�ำขอน้นโดยไม่ชักช้ำ เม่อหน่วยงำน
                                                                         ั
              ี
                                                                                       ื
            ของรัฐมีค�ำส่งเช่นใดแล้วหำกผู้เสียหำยยังไม่พอใจในผลกำรวินิจฉัยของหน่วยงำนของรัฐก็ให้มีสิทธิร้องทุกข์
                      ั
            ต่อคณะกรรมกำรวินิจฉัยร้องทุกข์ตำมกฎหมำยว่ำด้วยคณะกรรมกำรกฤษฎีกำได้ภำยในเก้ำสิบวันนับแต่
            วันที่ตนได้รับแจ้งผลกำรวินิจฉัย
                                                ี
                  ให้หน่วยงำนของรัฐพิจำรณำค�ำขอท่ได้รับตำมวรรคหน่งให้แล้วเสร็จภำยในหน่งร้อยแปดสิบวัน
                                                               ึ
                                                                                  ึ
            หำกเร่องใดไม่อำจพิจำรณำได้ทันในก�ำหนดน้นจะต้องรำยงำนปัญหำและอุปสรรคให้รัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือ
                                                ั
                 ื
            ก�ำกับหรือควบคุมดูแลหน่วยงำนของรัฐแห่งน้นทรำบและขออนุมัติขยำยระยะเวลำออกไปได้ แต่รัฐมนตร ี
                                                ั
            ดังกล่ำวจะพิจำรณำอนุมัติให้ขยำยระยะเวลำให้อีกได้ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
                                                                  ี
                                   ี
                                           ี
                  มำตรำ 1๒ ในกรณีท่เจ้ำหน้ำท่ต้องชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนท่หน่วยงำนของรัฐได้ใช้ให้แก่ผู้เสียหำย
                                                                                 ั
                                   ี
                                           ี
                                                                 ื
            ตำมมำตรำ ๘ หรือในกรณีท่เจ้ำหน้ำท่ต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทนเน่องจำกเจ้ำหน้ำท่ผู้น้นได้กระท�ำละเมิด
                                                                               ี
                                                                              ี
            ต่อหน่วยงำนของรัฐตำมมำตรำ ๑0 ประกอบกับมำตรำ ๘ ให้หน่วยงำนของรัฐท่เสียหำยมีอ�ำนำจออก
            ค�ำสั่งเรียกให้เจ้ำหน้ำที่ผู้นั้นช�ำระเงินดังกล่ำวภำยในเวลำที่ก�ำหนด
                  มำตรำ 1๓ ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีระเบียบเพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ซึ่งต้องรับผิดตำมมำตรำ ๘ และมำตรำ
                                                                                        ั
                                                                                           ิ
                                                                              ั
                                                           ึ
                                                         ึ
                                                      �
                                ิ
                                   ่
            ๑0 สำมำรถผ่อนชำระเงนทจะต้องรบผดนนได้โดยคำนงถงรำยได้ ฐำนะ ครอบครวและควำมรบผดชอบ
                            �
                                   ี
                                               ้
                                               ั
                                          ั
                                            ิ
            และพฤติกำรณ์แห่งกรณีประกอบด้วย
                  มำตรำ 1๔ เมื่อได้มีกำรจัดตั้งศำลปกครองขึ้นแล้ว สิทธิร้องทุกข์ต่อคณะกรรมกำรวินิจฉัยร้องทุกข์
            ตำมมำตรำ ๑๑ ให้ถือว่ำเป็นสิทธิฟ้องคดีต่อศำลปกครอง
                  มำตรำ 1๕ ให้นำยกรัฐมนตรีรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
            ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
                บรรหำร ศิลปอำชำ
                  นำยกรัฐมนตรี
   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184