Page 362 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 362

วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษ




                    คาพิพากษาศาลฎีกาท่ 12224-12238/2553 พระราชบัญญัติจัดต้งศาลแรงงานและวิธ     ี
                                        ี
                     �
                                                                             ั
            พิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 52 และ 53 เป็นบทบัญญัติให้ศาลแรงงานมีอํานาจพิเศษ
            คือ การบัญญัติให้ศาลแรงงานมีอํานาจพิพากษาเกินคําขอและให้มีผลผูกพันผู้ท่มีผลประโยชน์ใน
                                                                                ี
            มูลความแห่งคดีด้วยได้ เพราะคดีแรงงานเป็นคดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างและผู้มีผลประโยชน์
                                                                          ื
                                ึ
            ในมูลความแห่งคดี ซ่งบางคร้งก็มีจํานวนมาก การต้องฟ้องร้องทุกเร่องย่อมเกิดความล่าช้า
                                       ั
                                          ื
            เพ่อให้เกิดความเป็นธรรมและเพ่อประโยชน์ในการท่จะเกิดความสงบเรียบร้อยในสังคมและ
                                                            ี
               ื
            ไม่ให้เกิดข้อพิพาทตามมา แต่จะต้องกําหนดไว้ในคําพิพากษาให้ชัดเจน การที่ศาลแรงงานกลาง
            พิพากษาให้จําเลยทั้งสองปฏิบัติกับสมาชิกอื่นของจําเลยที่ 1 ด้วย จึงชอบด้วยพระราชบัญญัติ
            จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 52 และ 53

                                          ี
                     �
                    คาพิพากษาศาลฎีกาท่ 16434-16650/2556 การท่จําเลยถือมติคณะกรรมการ
                                                                     ี
                                         ี
                                       ั
            การท่าเรือแห่งประเทศไทยคร้งท่ 5/2526 ให้หน่วยงานของจําเลยคืองานของท่าเรือกรุงเทพ
            เป็นงานขนส่ง แล้วไม่จ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทํางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดตามประกาศ
                                                                                        ี
            คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ให้ลูกจ้างของจําเลยทุกคนท่ทํางานอยู่ท่ท่าเรือ
                                                                              ี
                                                                                   ี
                                                                                    ้
                                                                                            ี
                                          ึ
                                                                 ั
                                                                      ู
                                                             ่
                                                            ์
                                                                               ่
                                                ้
                                             ็
                                                 ี
                                                ู
                              ่
                     ั
                        ู
               ุ
            กรงเทพนน ลกจางอนของจําเลยจงเปนผมผลประโยชนรวมกนในมลความแหงคดดวย ศาลฎกา
                              ื
                     ้
                           ้
                                                         ื
                                                                                              ั
            เห็นสมควรให้คําพิพากษาผูกพันจําเลยและลูกจ้างอ่นของจําเลยด้วยตามพระราชบัญญัติจัดต้ง
            ศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 53
                    คาพิพากษาศาลฎีกาท่ 4600/2560 เม่อค่าตอบแทนในการขายหรือค่านายหน้าท          ่ ี
                                         ี
                                                        ื
                     �
                                          ี
                             ั
            จําเลยค้างชําระน้นเป็นค่าจ้างท่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 9
            วรรคหน่ง กําหนดให้จําเลยซ่งเป็นนายจ้างต้องเสียดอกเบ้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี และ
                                                                  ี
                                       ึ
                    ึ
                                                        ี
            แม้โจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับจําเลยเสียดอกเบ้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีมาด้วยก็ตาม
            แต่เมื่อศาลแรงงานภาค 4 เห็นสมควรเพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความก็อาจจะพิพากษาให้จําเลย
            เสียดอกเบ้ยดังกล่าวให้แก่โจทก์ได้ตามพระราชบัญญัติจัดต้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณา
                                                                   ั
                      ี
            คดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 52
                                                              ี
                     �
                    คาพิพากษาศาลฎีกาท่ 8209-8219/2560 โจทก์ท่ 11 บรรยายฟ้องว่าค่าจ้าง 11,117 บาท
                                        ี
            แต่มีคําขอให้จําเลยจ่ายค่าจ้างในอัตรา 10,854 บาท เมื่อจําเลยรับว่าโจทก์ที่ 11 มีค่าจ้างอัตรา
                                                   ื
            สุดท้ายตามฟ้องเดือนละ 11,117 บาท เพ่อความเป็นธรรมจึงให้จําเลยจ่ายค่าจ้างเดือนละ
            11,117 บาท แก่โจทก์ที่ 11 ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
            พ.ศ. 2522 มาตรา 52
            360
   357   358   359   360   361   362   363   364   365   366   367