Page 204 - เอกสารฝนหลวง
P. 204
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
(คําแปล)
การดัดแปรสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง
ผู้ประดิษฐ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แห่งประเทศไทย
ที่อยู่ พระตําหนักจิตรลดา พระราชวังดุสิต
กรุงเทพฯ ประเทศไทย
ขอบเขตของการประดิษฐ์
เทคโนโลยีของการทําฝนต้องใช้ความรู้ในศาสตร์ต่างๆ และในแง่มุมต่างๆมากมายได้แก่
อุตุนิยมวิทยา (Meteorology) ความรู้เกี่ยวกับอากาศในฤดูกาลต่างๆ (Climatology) ศาสตร์ของ
การเกิดเมฆ (cloud formation) พัฒนาการของเมฆ (cloud evolution) การเกิดฝน (rain formation)
และ การกระจายตัวของเมฆ (cloud dispersion)
ภูมิหลังของการประดิษฐ์
เทคโนโลยีนี้ให้ชื่อว่า “เทคโนโลยีการทําฝนหลวง (Royal Rainmaking Technology)”
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีพิเศษจําเพาะ ซึ่งประดิษฐ์คิดค้นโดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
แห่งประเทศไทย โดยเทคโนโลยีฝนหลวงนี้ ทรงประดิษฐ์คิดค้นขึ้นเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรประชาชน
ชาวไทยของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะชาวไร่ชาวนาผู้ประสบปัญหาภัยแล้งซํ้าซากตลอดระยะเวลา
ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดความผันผวนผิดปรกติของฤดูกาล และเป็นความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ
การจัดการนํ้าในบริเวณภาคอีสานของประเทศ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางแก้ได้ตกและยังดูเหมือน
ตรงข้ามกับที่คิดว่าน่าจะเป็นด้วยว่า เมื่อเวลามีฝนตกก็จะมีนํ้ามากเกินไปจนนํ้าท่วมล้นไหลชะดิน
และสิ่งต่างๆลงจากภูเขาไป เพราะไม่มีต้นไม้มากนักที่จะสามารถหยุดนํ้าไว้ได้ จนทําให้เกิดนํ้าท่วม
เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนมากมายที่พื้นที่ด้านล่าง แต่เมื่อนํ้าลด ก็เกิดภัยแล้งหนักขึ้น การแก้ปัญหา
เหล่านี้คือควรมีการสร้างฝายชะลอนํ้าไม่ใหญ่นักให้มีจํานวนมากเพียงพอตามทางนํ้าไหลที่หลากลงมา
จากภูเขาเพื่อควบคุมการไหลของนํ้า ควรมีการสร้างฝายและอ่างเก็บนํ้าไว้เพื่อได้ใช้ในยามนํ้าแล้งด้วย
เมื่อยามฤดูฝน นํ้าจะได้ไม่ไหลบ่าลงท่วมบ้านเรือนผู้คน แต่จะถูกกักเก็บไว้เพื่อไว้ใช้ในยามฤดูแล้ง
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาสําคัญอันหนึ่งคือ โดยรวมๆแล้วภาคอีสานของประเทศไทยนั้นได้ชื่อว่า
เป็นภาคที่แห้งแล้งมาก ทั้งๆที่ความจริงแล้ว บนท้องฟ้าในภาคอีสานนั้นมีเมฆอยู่มากมาย แต่เมฆเหล่านั้น
149