Page 207 - เอกสารฝนหลวง
P. 207

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง



                       ของเมฆ (cloud dispersion) ในฤดูกาลต่างๆ ได้มีการทดลองสารเคมีแตกต่างกันหลายชนิด  การใช้
                       สารเคมีที่คายความร้อนหรือ อมความร้อนเมื่อรวมตัวกับนํ้าในการก่อเมฆฝน หรือในการโปรยสารเคมี

                       เป็นหัวใจในปฏิบัติการเทคโนโลยีฝนหลวง ข้อมูลเกี่ยวกับการที่เมฆอยู่กับที่ (cloud statics) หรือ

                       เมฆเคลื่อนที่ (cloud dynamics)  เช่น การควบแน่นทําให้เกิดแกนกลั่นตัวของเมฆ  การเสียหรือได้
                       ความร้อนแฝงระหว่างการเปลี่ยนสถานะนํ้าจากไอนํ้ากลายเป็นของเหลว และจากของเหลวกลายเป็น

                       ของแข็ง  ซึ่งจะทําให้เกิดการยกตัวของมวลอากาศเนื่องจากการนําพาและการทะลักของความร้อน

                       ขึ้นในแนวดิ่งเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่ภายในหรือภายนอกมวลเมฆ  ทิศทางของลม ณ ที่ตรงนั้น และข้อมูล
                       เกี่ยวกับการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์  ข้อมูลทุกอย่างเหล่านี้จําเป็นต้องนํามาประกอบการพิจารณา

                       ประมวลเข้าด้วยกันและนํามาประยุกต์ใช้  เพื่อให้เกิดผลสําเร็จที่ดีที่สุดในการดัดแปรสภาพอากาศ
                       ในการใช้เทคโนโลยีที่มีกระบวนการขั้นสูงมากและซับซ้อนมากนี้

                              โดยทั่วไป  วิธีการของการทําฝนประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้
                              1.  การก่อเมฆ (Triggering) เป็นการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อกระตุ้นหรือส่งเสริมให้เกิดเมฆ

                              2.  การเลี้ยงเมฆให้อ้วน (Fattening) เป็นการรวบรวมและทํามวลเมฆให้โตและแน่นขึ้นเพียงพอ

                              3.  การโจมตี (Attacking) เป็นการจัดการกับมวลเมฆแน่นนั้นให้ควบแน่นและตกเป็นฝน
                                 ลงบนพื้นที่เป้าหมาย



                              การดัดแปรสภาพอากาศอาจเป็นเพียงการทําฝนจากเมฆอุ่น ถ้าเครื่องบินที่ใช้มีเพดานบินไม่เกิน
                       10,000 ฟุตเหนือระดับนํ้าทะเล  ซึ่งส่วนของเมฆที่ถูกดัดแปรนี้เรียกว่าเป็น “เมฆอุ่น” และมีอุณหภูมิ
                       สูงกว่าศูนย์องศาเซลเซียสเท่านั้น  ปัจจุบันการดัดแปรสภาพอากาศก้าวหน้าไปจนถึงขั้นที่การทําให้

                       เมฆเติบโตหรือที่เรียกว่าเลี้ยงเมฆให้อ้วน เลี้ยงได้เมฆที่สูงขึ้นไปถึงระดับ 25,000–30,000 ฟุต  อุณหภูมิ

                       ของเมฆที่อยู่เหนือ 18,000 ฟุตขึ้นไปโดยทั่วไปจะตํ่ากว่า 0 องศาเซลเซียส จะเรียกเมฆในระดับนี้ว่า
                       “เมฆเย็น”  ดังนั้น เทคโนโลยีฝนหลวงนี้พัฒนาได้ถึงขั้นการดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝนได้ทั้งจาก

                       เมฆอุ่นและเมฆเย็นควบคู่ไปพร้อมกันได้แล้ว ในการประดิษฐ์ที่มีมาก่อนหน้านั้น  การดัดแปรสภาพอากาศ
                       ใช้ทําฝนหรือหิมะจากเมฆเย็นโดยการยิงหรือโปรยสารเคมีเข้าไปในก้อนเมฆที่มีอยู่แล้ว  ยังไม่เคยมี

                       เทคนิคใดที่เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการก่อเมฆ  โดยกระตุ้นให้เกิดแกนเมฆโดยควบแน่นความชื้นที่มีอยู่ใน
                       ระดับปานกลาง  และยังไม่เคยมีผู้ใดทําการย้ายเมฆไปยังพื้นที่เป้าหมายได้ในลักษณะที่แสดงไว้ใน

                       การประดิษฐ์นี้เลย   กระบวนการดัดแปรสภาพอากาศที่แสดงไว้ในการประดิษฐ์นี้แตกต่างอย่างชัดเจน

                       จากการประดิษฐ์ที่มีมาก่อนหน้านี้ คือ ในการประดิษฐ์ของ U.S. Patent No. 5,357,865 นั้น   จะต้องมี
                       เมฆอยู่แล้ว  และกระบวนการที่อธิบายไว้ก็เป็นเพียงการเพิ่มปริมาณของฝนที่ตกเท่านั้น  ไม่ใช่ทั้ง

                       กระบวนการของการทําฝนดังที่อธิบายไว้ของการประดิษฐ์นี้





                                                              152
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212