Page 211 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

รายละเอียดของการประดิษฐ์

การประดิษฐ์นี้ เป็นเทคโนโลยีใช้ดัดแปรสภาพอากาศเพื่อทําฝน และเคลื่อนย้ายนํ้าในรูปของเมฆ

จากพื้นที่บริเวณหนึ่งไปตกเป็นฝนในพื้นที่เป้าหมายที่กําหนดไว้ห่างไกลออกไปโดยการใช้ “เทคโนโลยี
ฝนหลวง” เป็นเทคนิคการโปรยสารเคมีใช้ในการทําฝน การกระตุ้นให้เกิดฝน และการเพิ่มปริมาณฝน
โดยการดัดแปรสภาพอากาศในสภาวการณ์ต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับ อุตุนิยมวิทยา

(Meteorology) ความรู้เกี่ยวกับอากาศในฤดูกาลต่างๆ (Climatology) ฟิสิกส์ของเมฆ (cloud physics)

ศาสตร์ของการเกิดเมฆ (cloud formation) พัฒนาการของเมฆ (cloud evolution) การเกิดฝน

(rain formation) ความเร็วและทิศทางของลม (speed and direction of wind) และการกระจายตัว

ของเมฆ (cloud dispersion) ในแง่มุมต่างๆ ทั้งหมดต้องนํามาประยุกต์ใช้เพื่อให้ได้ ผลสําเร็จ
ตามต้องการ เทคนิคโปรยสารเคมี ได้แก่ การโปรยสารเคมีเข้าสู่เมฆอุ่น การโปรยสารเคมีเข้าสู่เมฆเย็น

หรือใช้ทั้งสองอย่างร่วมกัน เทคโนโลยีนี้โดยทั่วไปประกอบด้วยขั้นตอนสําคัญดังต่อไปนี้ปฏิบัติ

เป็นลําดับขั้นที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 1 การก่อเมฆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดเมฆ

ขั้นตอนที่ 2 การเลี้ยงเมฆให้อ้วน และเคลื่อนย้ายเมฆ ซึ่งเป็นการทําให้เมฆโตขึ้น และเคลื่อน
มวลเมฆไปยังพื้นที่เป้าหมายที่กําหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 การโจมตีเมฆ ซึ่งเป็นการเริ่มทําให้ฝนตกลงมาจากก้อนเมฆโดย “เทคนิคแซนด์วิช”
(เป็นการโจมตีเมฆอุ่น)

ขั้นตอนที่ 4 การเพิ่มปริมาณนํ้าฝนที่ตกลงสู่พื้นดิน
ขั้นตอนที่ 5 การโปรยซิลเวอร์ไอโอไดด์ ซึ่งเป็นการโจมตีเมฆเย็น เมื่อมีเครื่องบินสําหรับ

โจมตีเมฆเย็นใช้ และ
ขั้นตอนที่ 6 “เทคนิคซูเปอร์แซนด์วิช” ซึ่งเป็นการโจมตีกลุ่มเมฆผสมซึ่งมีทั้งเมฆอุ่นและเมฆเย็น

ทําได้เมื่อมีเครื่องบินสําหรับโจมตีทั้งเมฆอุ่นและเมฆเย็นใช้ ขั้นตอนนี้เป็นการ

ใช้ขั้นตอนที่ 3, 4 และ 5 ร่วมกัน

รายละเอียดของแต่ละขั้นตอนและการอธิบายเหตุผล รวมทั้งผลปฏิบัติการที่ได้รับ ดังที่แสดงไว้
ใน รูปที่ 1 และ 2 เป็นดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 “การก่อกวน” (Triggering)

จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้ ดังที่แสดงไว้ในรูปที่ 3 คือการทําให้เกิดเมฆ หรือกระบวนการ
ควบแน่น และทําให้เมฆเกิดใหม่หนาแน่นขึ้นโดยเพิ่มคุณสมบัติของแกนก่อเมฆ (Cloud Condensation

156