Page 319 - เอกสารฝนหลวง
P. 319

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง


                   เมฆดังกล่าวในขั้นตอนนี้เจริญเติบโตมีขนาดใหญ่ และก่อยอดสูงขึ้น   เกิดกิจกรรมในเมฆทวี

                   ความแรงยิ่งขึ้น  เช่น  กระบวนการกลั่นตัว (Condensation  Process) การลอยตัวขึ้นในแนวตั้งของ

                   กลุ่มอากาศ (updraft) ในเมฆ   การชนและรวมตัวกันของหยดน ้าในเมฆเป็นหยดเมฆ (Cloud  Droplet)
                   ที่ใหญ่ขึ้น   เมฆในขั้นตอนนี้อาจเจริญเติบโตก่อยอดสูงขึ้นถึง  20,000 ฟุต  หรือกว่าได้


                                   ขั้นตอนที่  3  เป็นขั้นตอนการเร่งหรือบังคับเมฆที่เจริญถึงขั้นแก่ตัวให้เกิดฝนตก

                   ลงสู่พื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการ   โดยเลือกปฏิบัติการกับกลุ่มเมฆ  (Cloud Band) ที่มีปริมาณเมฆหนาแน่น

                   และจ านวนเมฆที่เจริญเติบโตจนถึงขั้นแก่ตัวมากกว่ากลุ่มอื่นที่เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายหวังผล
                   ที่ก าหนดไว้ในแผนปฏิบัติการฯ ประจ าวันพระราชทาน


                           เมื่อตัดสินใจเลือกกลุ่มเมฆที่จะบังคับให้เกิดฝนดังกล่าวข้างต้นแล้ว    เริ่มปฏิบัติการโดยใช้
                   เครื่องบินไอร์แลนเดอร์ 1 เครื่อง   เครื่องบินเซสน่า 2  เครื่อง  บรรทุกสูตร 1 หรือสูตร 4 ผสมสูตร 1

                   ในอัตราส่วนผสม  1 : 6 – 1 : 8  น ้าหนักรวมกันประมาณ 1,000  กิโลกรัม โดยโปรยที่ระดับ 10,000 ฟุต

                   ทับยอดเมฆที่ยังก่อยอดไม่เกิน 10,000 ฟุต  และบินเข้าเมฆหากยอดเมฆสูงกว่า 10,000 ฟุต ไม่มากนัก
                   เช่น 12,000 ฟุต  และโปรยที่ไหล่เมฆหากยอดเมฆสูงกว่า 10,000 ฟุตมาก เช่น 15,000 ฟุตขึ้นไป  เมฆบางยอด

                   อาจสูงถึง  20,000  ฟุตหรือกว่า  ให้แนวโปรยสูตร 1 หรือสูตร 1  ผสมสูตร 4  ดังกล่าวทางด้านเหนือลม

                   ของกลุ่มเมฆ โดยโปรยเป็นแนวขวางทิศทางลม  เพื่อให้กระแสลมพัดพาสารท าฝนเข้าไปในเมฆโดยตรง

                   (Direct Seeding)  ขณะเดียวกันใช้เครื่องปอร์ตเตอร์ 1 เครื่อง  และเครื่องบินเซสน่า 2  เครื่อง

                   บรรทุกสูตร 4  น ้าหนักรวมกันประมาณ 1,000 กิโลกรัม  โปรยที่ระดับฐานเมฆหรือสูงกว่าฐานเมฆ
                   ประมาณ 500 ฟุต  แต่ไม่เกิน 1,000 ฟุต  ให้แนวโปรยสูตร 1  ที่ระดับ 10,000 ฟุต  ขนานกับแนวโปรย

                   สูตร 4  ที่ระดับฐานเมฆ  ท ามุมเยื้องกัน 45 องศา  ลงมือโปรยพร้อมกันโดยหันหัวเครื่องบินไปในทิศทาง

                   เดียวกัน และความเร็วในการบินเดินทางเท่ากัน การโปรยสารต้องค่อยๆโปรยด้วยความระมัดระวังใน
                   อัตราต ่า (Under Seeding)  หากโปรยสารมากเกินไป (Over Seeding)  อาจท าให้เมฆที่ยังเจริญเติบโต

                   ไม่ถึงขั้นแก่ตัวเต็มที่สลายตัวหรือแตกได้


                           กลุ่มเมฆที่เลือกปฏิบัติการประกอบด้วยทั้งเมฆที่มียอดสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต   เมฆที่ก่อยอด
                   สูงกว่า 10,000 ฟุต  แต่ไม่เกิน 15,000 ฟุต   เมฆที่ก่อยอดสูงกว่า 15,000 ฟุต  และมีเมฆเกิดใหม่

                   เกิดขึ้นระหว่างช่องว่างระหว่างเมฆ  เมฆที่เลือกปฏิบัติการควรมีความหนาจากฐานเมฆถึงยอดเมฆ

                   เป็น 2 เท่าของระยะทางจากฐานเมฆถึงพื้นดิน  เช่น  ฐานเมฆสูงกว่าพื้นดิน 3,000 ฟุต  ความหนา

                   ของเมฆจากฐานเมฆถึงยอดเมฆอย่างต ่าควรหนา 6,000 ฟุต    หรือยอดเมฆสูงจากพื้นดินไม่ต ่ากว่า
                   9,000  ฟุต  เป็นต้น   ฐานเมฆควรมีสีเทาเข้มจนเกือบด า   ส่วนยอดเมฆยังมีสภาพการเจริญเติบโตหรือ

                   ยังไม่มีลักษณะสลายตัว  มีลักษณะเป็นปุยสีขาวคล้ายดอกกะหล ่า







                                                            273
   314   315   316   317   318   319   320   321   322   323   324