Page 482 - เอกสารฝนหลวง
P. 482

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

                           การปฏิบัติการฝนหลวงกู้วิกฤติอันเนื่องจากภัยแล้งให้แก่พื้นที่เกษตรกรรม


                                   และย่านอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกในช่วงกลางฤดูฝน

                                     ณ ฐานปฏิบัติการท่าอากาศยานอู่ตะเภา  จังหวัดระยอง

                                              (14 กรกฎาคม – 18 สิงหาคม 2548)





                                 1. สภาวะแห้งแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงกลางฤดูฝน พ.ศ. 2548


                              ได้เกิดสภาวะแห้งแล้งในช่วงฤดูฝน พ.ศ. 2548  และทวีความรุนแรงในช่วงเดือนมิถุนายน 2548
                       ต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤติในต้นเดือนกรกฎาคม   นอกจากจะเกิดผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมแล้ว

                       ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรม  โดยเฉพาะย่านอุตสาหกรรมสําคัญ  ส่วนใหญ่ตั้งอยู่
                       ในรอยต่อของจังหวัดชลบุรีด้านตะวันออก และทางด้านตะวันตกของจังหวัดระยอง  เช่น นิคมอุตสาหกรรม

                       มาบตาพุด  แหลมฉบัง  บ่อวิน เป็นต้น  ย่านอุตสาหกรรมดังกล่าวใช้นํ้าในการผลิตจากอ่างเก็บนํ้า
                       ทั้ง 6 อ่างของทั้งสองจังหวัด   แต่ละอ่างปริมาณนํ้าเก็บกัก ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2548 เหลือน้อย

                       อย่างน่าวิตก   กล่าวคือ

                              จังหวัดระยอง  อ่างเก็บนํ้าดอกทรายและหนองปลาไหล  รวม 2 อ่าง  เหลือปริมาณนํ้าเก็บกัก

                       เพียง 31.184 ล้านลบ.ม.  แต่เป็นนํ้าใช้งานได้เพียง 14.684 ล้านลบ.ม.

                              จังหวัดชลบุรี  อ่างเก็บนํ้าบางพระ  หนองค้อ  มาบประชัน  และหนองกลางดง  รวม 4 อ่าง

                       เหลือปริมาณนํ้าเก็บกักเพียง 24.862 ล้านลบ.ม.  แต่เป็นนํ้าใช้งานได้เพียง 8.862 ล้านลบ.ม.

                              สําหรับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  และย่านใกล้เคียง มีความต้องการใช้นํ้าในการผลิตรวมกัน
                       วันละ 600,000 ลบ.ม.   ฉะนั้นปริมาณนํ้าเก็บกักใช้งานได้ที่เหลือรวมกันทั้ง 6 อ่างเพียง 23.546 ลบ.ม.

                       คงใช้ในการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้เพียงในระยะเวลาอันสั้น   หากไม่สามารถจัดหานํ้า

                       มาสนองความต้องการ  อาจต้องหยุดการผลิตในเร็ววันตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2548   ซึ่งจะสร้างความเสียหาย
                       ต่อเศรษฐกิจของชาติอย่างมหาศาล   เพราะกําลังผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกสูงถึง 1 ใน 3

                       ของกําลังผลิตทั้งประเทศ

                              รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์)  ได้ลงพื้นที่ และ
                       ร่วมประชุมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน  เพื่อรับทราบสถานการณ์และสภาพปัญหาตาม

                       ความเป็นจริงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2548   มีบัญชาและกําหนดมาตรการให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาค

                       ตะวันออก  ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่  ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา  จังหวัดระยอง  ให้ปฏิบัติการเพิ่ม
                       ปริมาณนํ้าเก็บกักในอ่างเก็บนํ้าเพื่ออุตสาหกรรมทั้ง 6 อ่างให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในการผลิตของ


                                                              423
   477   478   479   480   481   482   483   484   485   486   487