Page 483 - เอกสารฝนหลวง
P. 483
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
ภาคอุตสาหกรรมในย่านนั้นดังกล่าวข้างต้น และยับยั้งสถานการณ์ในขั้นวิกฤตให้คืนสู่สภาวะปกติ
อย่างเร่งด่วน
2. มาตรการการแก้ไขภาวะขาดแคลนนํ้าอันเนื่องจากภัยแล้งในภาคอุตสาหกรรม
สถานการณ์แห้งแล้งในขั้นวิกฤตยังไม่กระเตื้องขึ้น ฯพณฯ รมว.กส. ได้ลงพื้นที่ และประชุม
กับหน่วยงานในพื้นที่อีกครั้ง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2548 ได้มีบัญชาและกําหนดมาตรการให้แต่ละ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ปฏิบัติในส่วนที่ตนรับผิดชอบ เพื่อให้สถานการณ์วิกฤตคืนสู่
สภาวะปกติโดยเร็ว ดังนี้ :
2.1 หน่วยงานของกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ขุดเจาะนํ้าบาดาลเพื่อให้
ได้นํ้าวันละ 180,000 ลบ.ม. เป็นอย่างตํ่า
2.2 บริษัทอีสต์วอเตอร์ ให้วางท่อผันนํ้าจากเขื่อนประแสร์มายังอ่างเก็บนํ้าดอกกรายให้ได้
วันละ 220,000 ลบ.ม. เป็นอย่างตํ่า
2.3 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ณ ฐานปฏิบัติการฯ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา
ให้ปฏิบัติการเพิ่มปริมาณนํ้าเก็บกักให้อ่างเก็บนํ้าเพื่ออุตสาหกรรมทั้ง 6 อ่างดังกล่าวข้างต้น รวมกัน
ให้ได้วันละ 200,000 ลบ.ม. เป็นอย่างตํ่า
รวมกันแล้วให้ได้นํ้าวันละ 600,000 ลบ.ม. เพียงพอต่อความต้องการนํ้าเพื่อการผลิตของ
ภาคอุตสาหกรรม
รมว.กส.(คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์) ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัว
หิน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2548 ในวโรกาสนี้ ได้ขอพระราชทานข้อแนะนําทางเทคนิคที่จะทําให้การ
ปฏิบัติการฝนหลวงได้อย่างสัมฤทธิ์ผล ในสภาวะแห้งแล้งรุนแรงในขั้นวิกฤติที่กําลังเผชิญหน้าอยู่
ในขณะนั้นทั้งในภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรมในภาคตะวันออก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ติดต่อนายเมธา รัชตะปีติ ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวงไปช่วยถ่ายทอดความเชี่ยวชาญและ
ประสบการณ์ในการประยุกต์เทคโนโลยีฝนหลวงและข้อแนะนําทางเทคนิคพระราชทาน
3. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
จากสภาวะแห้งแล้งตามข้อ 1 และมาตรการแก้ไขตามข้อ 2 พอประมวลเป็นวัตถุประสงค์
ได้ดังนี้ :
(1) เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงกู้ภัยแล้งช่วยเหลือไม่ให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงยาวจนเกิดสภาวะ
แห้งแล้งรุนแรงในขั้นวิกฤติของภาคเกษตรกรรม ในพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการของจังหวัดชลบุรีและ
ระยอง
424

