Page 733 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

วันที่ 21 – 27 สิงหาคม พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้กลับมาใช้สนามบินจังหวัดนครสวรรค์อีกครั้ง
สามารถช่วยการทํานาให้รอดพ้นความเสียหายและปักดําเพิ่มมากขึ้นเป็นเนื้อที่รวม 2,053,00 ไร่

ในช่วงเวลาเพียง 7 วัน

วันที่ 1 – 17 กันยายน พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินจังหวัดสงขลา เป็นฐานปฏิบัติการ
ช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมและการทํานาของจังหวัดสงขลา ตรัง และพัทลุง จนรอดพ้นจากความเสียหาย

ภายในช่วงเวลาเพียง 17 วัน

วันที่ 23 – 29 กันยายน พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้กลับมาใช้สนามบินหัวหินซึ่งเป็น

ฐานปฏิบัติการค้นคว้าทดลองหลัก ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมของอําเภอชะอํา และ
ศูนย์ไทย – อิสราเอล จังหวัดเพชรบุรี เป็นเนื้อที่รวม 562,000 ไร่ ในช่วงเวลาเพียง 7 วัน

วันที่ 3 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็น
ฐานปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรม และการทํานาของเกือบทุกอําเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ยกเว้น อําเภอขนอม จนรอดพ้นความเสียหายภายในช่วงเวลาเพียง 5 วัน

วันที่ 9 – 15 ตุลาคม พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินจังหวัดสงขลา ปฏิบัติการช่วยเหลือ

พื้นที่เกษตรกรรมและการทํานาของจังหวัดพัทลุงทุกอําเภอ จนรอดพ้นความเสียหาย ภายในช่วงเวลา
เพียง 6 วัน

วันที่ 23 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินจังหวัดนครสวรรค์
อีกครั้ง เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือการทํานา และพืชไร่ของจังหวัดนครสวรรค์ทุกอําเภอ ในช่วงปลายฤดูฝน

ต่อกับต้นฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจประจําปี สามารถช่วยให้รอดพ้น
ความเสียหายได้ทั่วทั้งจังหวัดและเก็บเกี่ยวได้สมบูรณ์ภายในช่วงเวลาเพียง 14 วัน

วันที่ 8 – 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินอําเภอหล่มสัก จังหวัด
เพชรบูรณ์ ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมของจังหวัดเพชรบูรณ์ทุกอําเภอในช่วงต้นฤดูแล้ง

(ฤดูหนาว) อุณหภูมิหนาวเย็นและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศลดตํ่าลง แต่กระนั้นก็ตามยังสามารถ
ปฏิบัติการให้รอดพ้นจากความเสียหายได้ถึง 75% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งจังหวัด นอกจากนั้นพื้นที่ใต้ลม

ของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ จังหวัดพิจิตร กําแพงเพชร และนครสวรรค์ยังได้รับฝนจากปฏิบัติการ
ครั้งนี้ด้วย

สรุปแล้วจากรายงานยืนยันของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับการปฏิบัติการช่วยเหลือยืนยันว่า
พื้นที่เกษตรกรรมในจังหวัดของตน ได้รับนํ้าฝนอย่างเพียงพอและรอดพ้นความเสียหาย รวมทั้งสิ้น

18,215,000 ไร่ สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาของเครื่องบิน) รวม
851,633.60 บาท เฉลี่ยแล้วเพียง 4.7 สตางค์ต่อไร่

663