Page 115 - 07_ความรเบยงตนเกยวกบกฎหมาย_Neat
P. 115
๑๐๖
ñ. ÈÒÅä·Âã¹»˜¨¨ØºÑ¹
ศาลยุติธรรม - มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เวนแตคดีที่อยูในอํานาจของศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครอง ศาลทหาร
ศาลรัฐธรรมนูญ - มีหนาที่วินิจฉัยคดีที่เกี่ยวของกับรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครอง - มีหนาที่พิจารณาพิพากษาคดีที่เปนขอพิพาทระหวางทางราชการกับเอกชน
เกี่ยวกับการใชอํานาจปกครอง
ศาลทหาร - มีหนาที่พิจารณาพิพากษาคดีเฉพาะคดีอาญาทหารและคดีที่มีลักษณะพิเศษ
ทางอาญา เชน คดีอาญาที่ทหารตกเปนจําเลย หรือคดีที่เกิดขึ้นในภาวะสงคราม
หรือประกาศกฎอัยการศึก
ò. ÈÒÅÂØμÔ¸ÃÃÁ
บทบาทของศาลยุติธรรมนั้นนอกจากจะทําหนาที่พิจารณาคดีทั้งทางแพงและอาญาแลว
ปจจุบันยังมีศาลที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อทําคดีเฉพาะ ไดแก ศาลภาษีอากร ศาลลมละลาย ศาลทรัพยสิน
ทางปญญาและการคาระหวางประเทศ ศาลแรงงาน และศาลเยาวชนและครอบครัว อีกทั้งรัฐธรรมนูญ
ยังไดตั้งแผนกคดีอาญาของผูดํารงตําแหนงทางการเมืองในศาลฎีกาเพื่อทําหนาที่พิจารณาคดีการเมือง
เชน คดีที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ถูกกลาวหาวารํ่ารวย
ผิดปกติ โดยผูพิพากษาศาลฎีกา ๙ คน ซึี่งไดรับเลือกโดยที่ประชุมใหญศาลฎีกา
ระบบศาลยุติธรรมของไทยแบงออกเปน ๓ ชั้น (มาตรา ๑ พระธรรมนูญศาลยุติธรรม)
ไดแก
ศาลชั้นตน - ศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีในชั้นตน ไดแก ศาลแขวง ศาลจังหวัด
ศาลอาญา ศาลแพง ศาลชํานัญพิเศษ
ศาลอุทธรณ - โดยหลักมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณคําพิพากษาของศาลชั้นตน
ศาลฎีกา - ศาลสูงสุด มีอํานาจพิจารณาพิพากษาเฉพาะคดีที่ศาลฎีกาอนุญาตใหมีการอุทธรณ
คําพิพากษาของศาลอุทธรณไดเทานั้น มีศาลเดียวตั้งอยูในกรุงเทพมหานคร
- คําพิพากษาของศาลฎีกาถือวาสิ้นสุด จะฟองรองตอไปอีกไมได สวนการที่ผูไดรับ
โทษทางอาญาถวายเรื่องตอพระมหากษัตริยเพื่อรับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน
อภัยโทษ เปนพระราชอํานาจของพระมหากษัตริยตามรัฐธรรมนูญ ไมใชการพิพากษาใหม
และไมใชการขัดแยงกับคําพิพากษาของศาลฎีกา