Page 353 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 353

๓๔๐




                          (๔) จัดใหมีการคาประเวณีระหวางผูซึ่งคาประเวณีกับผูใชบริการ
                          (๕) ปกปดหรืออําพรางแหลงที่มาของรายไดหรือทรัพยสินซึ่งไดมาจากการคาประเวณี

                          (๖)  อยูรวมกับผูซึ่งคาประเวณีหรือสมาคมกับผูซึ่งคาประเวณีคนเดียวหรือหลายคน
              เปนอาจิณและไมสามารถแสดงที่มาของรายไดในการดํารงชีพของตน
                          (๗) ขัดขวางการดําเนินการของหนวยงานที่ดูแลในการปองกัน ควบคุม ชวยเหลือ หรือ

              ใหการศึกษาแกผูซึ่งคาประเวณี ผูซึ่งจะเขารวมในการคาประเวณี หรือผูซึ่งอาจไดรับอันตรายจาก
              การคาประเวณี

                          ความในวรรคหนึ่ง (๒) และ (๖) มิใหใชบังคับแกผูรับประโยชนไมวารูปแบบใด ซึ่งพึงไดรับ
              ตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยา
                          ͸ԺÒÂ

                          ๑.  มาตรา ๒๘๖ (เดิม) เปนความผิด°Ò¹ดําçªÕ¾ÍÂÙ‹¨Ò¡ÃÒÂä´Œ¢Í§¼ÙŒ«Ö觤ŒÒ»ÃÐàÇ³Õ หรือ
              ที่เรียกกันวาเปน “แมงดา” ซึ่งจะเปนความผิดดังกลาวจะตองไดความวาผูนั้นดําçªÕ¾ÍÂÙ‹ä´Œโดยอาศัย

              ÃÒÂä´Œ·Ñé§ËÁ´หรือºÒ§Ê‹Ç¹จากผูซึ่งคาประเวณี ËÒ¡¢Ò´»˜¨¨ÑÂáÁŒà¾Õ§ºÒ§Ê‹Ç¹¨Ò¡ÃÒÂä´Œ¢Í§¼ÙŒ«Öè§
              ¤ŒÒ»ÃÐàdzըÐดําçªÕ¾ÍÂÙ‹äÁ‹ä´Œ (คําพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๐๘/๒๕๓๕)
                             ดังนั้น หากผูนั้นมีรายไดจากการประกอบอาชีพเพียงพอในการดํารงชีพ แมผูนั้น

              จะไดรับเงินสวนแบงจากผูซึ่งคาประเวณีดวยก็ตามก็ไมเปนความผิดตามมาตรานี้ (คําพิพากษาฎีกาที่
              ๒๕๕๕/๒๕๕๒ และ ๑๗๘/๒๕๒๘) เชน

                             คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè ñ÷ø/òõòø   แมจําเลยอายุเกิน ๑๖ ป ซึ่งเปนผูดูแลจัดการ
              สถานการคาประเวณี ไดรับสวนแบงจากการคาประเวณีของหญิงที่คาประเวณี แตจําเลยก็ประกอบ
              อาชีพอื่นอยูดวย คือขายผาและนํ้าปลามีรายไดเดือนละ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาท แสดงวา จําเลยÁÕÃÒÂä´Œ

              จากการคาขายáÅÐäÁ‹»ÃÒ¡¯Ç‹ÒÃÒÂä´Œ´Ñ§¡Å‹ÒÇäÁ‹à¾Õ§¾ÍสําËÃѺดําçªÕ¾ ถึงจําเลยจะไดสวนแบง
              จากหญิงซึ่งคาประเวณี ก็ไมเปนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๖

                             จะเห็นไดวาตามมาตรา ๒๘๖ (เดิม) ไมสามารถเอาผิดกับผูที่เปนแมงดาได หากผูนั้น
              มีรายไดอยางอื่นนอกเหนือจากที่ไดรับจากผูซึ่งคาประเวณีอยูดวย
                             ดวยเหตุนี้กฎหมายใหมจึงเพิ่มบทบัญญัติมากขึ้นเพื่อ»‡Í§»ÃÒÁÁÔãËŒÁÕ¡ÒáÃÐทํา·Õè໚¹

              ¡ÒÃàÍÒà»ÃÕºËÃ×ÍÃѺ»ÃÐ⪹¨Ò¡¼ÙŒ«Ö觤ŒÒ»ÃÐàdzÕËÃ×ͨҡ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ดังจะเห็นไดจากกรณี
              จําเลยตามคําพิพากษาฎีกาที่ ๑๗๘/๒๕๒๘ ขางตนยอมถือไดวามีความผิดฐานÃѺ»ÃÐ⪹จากผูซึ่ง

              คาประเวณีตามมาตรา ๒๘๖ (๒) ที่แกไขใหมแลว
                          ๒.  ¼ÙŒ¡ÃÐทําและ¼ÙŒ«Ö觤ŒÒ»ÃÐàdzÕจะเปนªÒÂหรือËÞÔ§ก็ได
                          ๓.  นาสังเกตความในวรรคสองเปน¢ŒÍ¡àÇŒ¹ความรับผิดไวในกรณีการกระทําตามความใน

              วรรคหนึ่ง (๒) และ (๖) มิใหนํามาใชบังคับแก¼ÙŒÃѺ»ÃÐ⪹ไมวารูปแบบใด«Öè§¾Ö§ä´ŒÃѺμÒÁ¡®ËÁÒÂ
              หรือμÒÁ¸ÃÃÁ¨ÃÃÂÒ เชน บุตรซึ่งอยูในความดูแลของมารดาผูซึ่งคาประเวณีจําเปนตองรับประโยชน

              หรืออยูรวมกับมารดาตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยาไมเปนความผิดตามมาตรานี้
   348   349   350   351   352   353   354   355   356   357   358