Page 350 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 350

๓๓๗




                 อํานาจปกครองเด็กตกอยูแกมารดาตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา ๑๕๔๐ บุตรเลี้ยง
                 มิไดอยูในความปกครองของบิดาเลี้ยง (คําพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๘/๒๕๐๒)

                              (ó)  ¾Õ蹌ͧËÇÁºÔ´ÒÁÒôÒËÃ×ÍËÇÁáμ‹ºÔ´ÒËÃ×ÍÁÒôÒ
                                 (ô) ÞÒμÔÊ׺ÊÒÂâÅËÔμ
                                 (õ) ÈÔɏ«Öè§ÍÂً㹤ÇÒÁ´ÙáÅ

                                      คําวา ÈÔɏ«Öè§ÍÂً㹤ÇÒÁ´ÙáÅตามมาตรา ๒๘๕ มิไดหมายถึงเฉพาะผูที่มีความสัมพันธ
                 ในฐานะครูหรืออาจารย ซึ่งÁÕ˹ŒÒ·ÕèÊ͹ÈÔɏเทานั้น แตครูหรืออาจารยนั้นμŒÍ§ÁÕ˹ŒÒ·Õè¤Çº¤ØÁ

                 ´ÙáÅ»¡»‡Í§ÃÑ¡ÉÒμÑÇÈÔɏ áÅСÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ·Õè¡®ËÁÒºÑÞÞÑμÔμ‹ÍÈÔɏã¹ÃÐËNjҧÁÕ˹ŒÒ·Õè
                 ´Ñ§¡Å‹ÒÇ´ŒÇ (คําพิพากษาฎีกาที่ ๔๒๑/๒๕๔๖, ๗๙๘๖/๒๕๔๐)
                                      μÑÇÍ‹ҧ  ¡Ã³Õ¡ÃÐทําμ‹ÍÈÔɏ«Öè§ÍÂً㹤ÇÒÁ´ÙáÅ

                                      จําเลยเปน¤ÃÙÊ͹วิชาพลศึกษาในโรงเรียนซึ่งผูเสียหายเปนนักเรียนอยู จําเลย
                 กระทําอนาจารแกผูเสียหาย ¢³ÐจําàÅÂทํา˹ŒÒ·ÕèÊͺ¤ÇÒÁÃÙŒÇÔªÒ¾ÅÈÖ¡ÉҢͧ¼ÙŒàÊÕÂËÒÂถือไดวา

                 ผูเสียหายเปนศิษยซึ่งอยูในความดูแลของจําเลยตามความหมายของมาตรา ๒๘๕ (คําพิพากษาฎีกา
                 ที่ ๑๗๕๙/๒๕๒๖)
                                      การที่จําเลยดํารงตําá˹‹§¼ÙŒª‹Ç¤ÃÙãËÞ‹ จําเลย‹ÍÁÁÕ˹ŒÒ·Õ軡¤Ãͧ´ÙáÅ

                 ¼ÙŒàÊÕÂËÒ«Öè§à»š¹ÈÔɏของจําเลย เมื่อจําเลยพยายามกระทําชําเราผูเสียหาย จําเลยจึงมีความผิดตาม
                 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๗๗ วรรคสอง (เดิม), ๒๘๔ วรรคแรก, ๒๘๕ (คําพิพากษา

                 ฎีกาที่ ๓๑๑๐/๒๕๕๑)
                                      ¢ŒÍÊѧà¡μ
                                      คดีนี้จําเลยเปนผูชวยครูใหญ แมจะไมไดสอนในชั้นที่ผูเสียหายเรียน ศาลฎีกา

                 ก็ยังเห็นวาจําเลยมีหนาที่ปกครองดูแลผูเสียหายซึ่งเปนศิษยของจําเลย เมื่อจําเลยพยายามกระทําชําเรา
                 ผูเสียหาย จําเลยจึงมีความผิดตามมาตรา ๒๘๕ ดวย

                                      ¡Ã³ÕÁÔ㪋໚¹¡ÒáÃÐทําμ‹ÍÈÔɏ«Öè§ÍÂً㹤ÇÒÁ´ÙáÅ
                                      จําเลยเปนเพียงครูหรืออาจารยในการสอนกวดวิชาตามที่มีผูไปสมัครเรียนตาม
                 ความสมัครใจ และเมื่อผูสมัครเรียนชําระคาสมัครแลวจะไปเรียนหรือไมก็ขึ้นอยูกับความสนใจที่จะใฝหา

                 ความรู อีกทั้งไมไดความวาสถาบันกวดวิชาของจําเลยมีระเบียบหรือขอบังคับเครงครัดอยางใด ยอมแสดง
                 วาจําเลยäÁ‹ÁÕ˹ŒÒ·ÕèÃѺ¼Ô´ªÍº¤Çº¤ØÁ´ÙáÅ»¡»‡Í§ÃÑ¡ÉÒμÑÇÈÔɏμÅÍ´ÃÐÂÐàÇÅÒ·Õèทํา¡ÒÃÊ͹ ดังนั้น

                 แมจําเลยจะขมขืนกระทําชําเราโจทกรวมซึ่งเปนผูเรียนกวดวิชากับจําเลย ก็มิใชเปนการกระทําตอศิษย
                 ซึ่งอยูในความดูแล (คําพิพากษาฎีกาที่ ๔๒๑/๒๕๔๖)
                                 (ö) ¼ÙŒÍÂً㹤ÇÒÁ¤Çº¤ØÁμÒÁ˹ŒÒ·ÕèÃÒª¡ÒÃ

                                      หมายถึง ผูกระทําความผิดมีหนาที่ควบคุมตามหนาที่ราชการและผูถูกกระทํา
                 ตองเปนผูอยูในความควบคุมดวย (คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๔๕๓/๒๕๑๕)
   345   346   347   348   349   350   351   352   353   354   355