Page 485 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 485

๔๗๒



                          (ó) ®Õ¡Ò·Õè ñóøñ-ñóøø/òõðø จําเลยครอบครองทํานาในที่พิพาทประมาณ
              ๑๖ ป โดยเจาหนาที่ออกใบเหยียบยํ่าใหจําเลยโดยชอบ และเสียภาษีบํารุงทองที่อยางเจาของตลอดมา

              โดยไมรูมากอนวาเปนที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน จําเลยจึงเชื่อโดยสุจริตใจวาที่พิพาทเปน

              ของตน ฉะนั้น การที่จําเลยไมยอมออกจากที่พิพาทตามคําสั่งของนายอําเภอ โดยอางวาที่พิพาทเปน
              ของตนนั้น จึงมีเหตุอันสมควรเปนขอแกตัวใหพนผิดฐานขัดคําสั่ง ตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๘ ได
                          ความแตกตางของขอเท็จจริงตามคําพิพากษาฎีกาดังกลาวขางตนคือ ในคําพิพากษาฎีกา

              ที่ ๑๐๓๕/๒๕๐๔ จําเลยไดรูอยูกอนแลววาที่พิพาทในคดีนั้นเปนที่สาธารณประโยชนแลว จําเลยจะ
              มาอางวาเปนของตน จึงไมเปนเหตุอันสมควรที่จะฟงเปนขอแกตัว ซึ่งไมเหมือนกับคําพิพากษาฎีกา

              ๑๙๕๐/๒๕๐๐ และ ๑๓๘๑-๑๓๘๘/๒๕๐๘
                          (ô) ®Õ¡Ò·Õè òñôó-òñôö/òõñ÷ จําเลยบุกรุกเขาไปยึดถือครอบครองที่ดินสาธารณะ

              นายอําเภอมีคําสั่งใหออกไปจําเลยฝาฝนไมยอมออกแมจะปรากฏจากคําฟองวาจําเลยครอบครอง
              ที่ดินนั้นมานานแลว การครอบครองมานานก็มิใชเหตุผลที่แสดงอยูในตัววาจําเลยเชื่อมั่นโดยสุจริตใจวา

              ที่ดินนั้นเปนของจําเลยเอง ไมใชที่สาธารณะ
                          (õ) ®Õ¡Ò·Õè òôóñ/òõóò  การที่จําเลยไมยอมออกจากที่พิพาทตามคําสั่งของ

              นายอําเภอ เพราะเชื่อวา จําเลยมีสิทธิครอบครองซึ่งเปนขอเท็จจริงอันเดียวเกี่ยวพันกันกับที่วินิจฉัย
              มาแลววา การกระทําของจําเลยไมเปนความผิดฐานบุกรุก จําเลยจึงไมมีความผิดฐานขัดคําสั่งเจาพนักงาน

              ตาม  ป.อ.มาตรา  ๓๖๘  เนื่องจากมีเหตุอันสมควรเปนขอแกตัวใหพนผิดไดเพราะจําเลยเชื่อ
              โดยสุจริตใจวาจําเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินนั้น

                          ความผิดตามมาตรานี้ ลําพังการกระทําที่ครบองคประกอบภายนอกก็พอแลว ผูกระทํา
              ไมตองมีเจตนา

                          มีขอที่นาสังเกตเกี่ยวกับเจตนาในการกระทําความผิดตาม  มาตรา  ๓๖๘  วาใน
              องคประกอบของความผิดขอที่ ๑ ที่วาผูกระทําตอง “ทราบ” คําสั่งของเจาพนักงาน ดังนั้น ถาผูกระทํา
              ไมทราบหรือไมถือวาไดทราบคําสั่งแลวผูกระทํายอมไมมีความผิด เพราะขาดองคประกอบของความผิด

              แตการไมปฏิบัติตามคําสั่งถาเกิดจากความเผอเรอ เชน นายอําเภอสั่งใหผูบุกรุกซึ่งเขาครอบครอง

              ที่สาธารณประโยชนออกไปจากที่ดินภายใน ๓๐ วัน ตอมาผูบุกรุกที่ไดทราบคําสั่งแลวเกิดหลงลืม
              จึงไมไดออกไปตามกําหนด เชนนี้ แมจะฟงไดวาผูบุกรุกมิไดมีเจตนาไมปฏิบัติตามคําสั่ง แตก็เห็น
              ไดวาการไมปฏิบัติตามคําสั่งนั้นไมมีเหตุคือขอแกตัวอันสมควร การขาดเจตนาก็ยังคงทําใหผูฝาฝน

              คําสั่งตองรับผิดอยูดี
                          ความผิดตามวรรคทาย เปนการกําหนดลักษณะฉกรรจของการกระทําความผิดตาม

              วรรคหนึ่ง  คือมีวัตถุประสงคตองการใหผูกระทําความผิดไดรับโทษหนักขึ้นในกรณีที่คําสั่งของ
              เจาพนักงานที่ไมปฏิบัติตามนั้นเปนคําสั่งใหชวยทํากิจการในหนาที่ของเจาพนักงาน ซึ่งกฎหมายกําหนด
              ใหสั่งใหชวยได เชน กํานันมีอํานาจหนาที่ในการจับกุมผูกําลังกระทําผิดกฎหมายหรือมีเหตุควรสงสัยวา

              เปนผูที่ไดกระทําผิดกฎหมาย และเมื่อมีเหตุรายสําคัญเกิดขึ้นในตําบลก็เปนหนาที่ของกํานันที่ตองเรียก
   480   481   482   483   484   485   486   487   488   489   490