Page 97 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 97
๘๔
เจาพนักงานโดยใชอาวุธ ศาลฎีกาวินิจฉัยวา ในขณะที่ผูเสียหายกับพวกเขาไปจับกุมจําเลยกับพวกนั้น
แมวาผูเสียหายจะมีอํานาจจับได แตก็ตองใชวิธีการจับตามที่บัญญัติไวในประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๓ วรรคสอง คือ ถาบุคคลซึ่งจะถูกจับขัดขวางหรือจะขัดขวาง
การจับกุมหรือหลบหนี หรือพยายามจะหลบหนี ผูทําการจับมีอํานาจใชวิธีหรือความปองกันทั้งหลาย
เทาที่เหมาะแกพฤติการณแหงเรื่องในการจับกุมนั้น หมายความวาถาหากผูถูกจับขัดขวางหรือ
จะขัดขวางการจับหรือหลบหนี หรือพยายามจะหลบหนี ผูที่ทําการจับนั้นก็มีอํานาจในการที่จะใชวิธี
หรือความปองกันทั้งหลายเทาที่เหมาะแกพฤติการณ ฉะนั้นในกรณีนี้ศาลฎีกาวินิจฉัยวา แมผูเสียหาย
จะมีอํานาจ แตการใชวิธีจับกุมดังกลาวนั้นเปนการใชวิธีการจับที่รุนแรงเกินความเหมาะสมแกพฤติการณ
การจับจําเลยกับพวกของผูเสียหายจึงถือวาไมชอบดวยกฎหมายเพราะใชวิธีรุนแรงเกินกวาที่กฎหมาย
ใหอํานาจไว ฉะนั้นจําเลยชอบที่จะปองกันสิทธิของจําเลยใหพนจากภยันตรายอันเกิดจากการจับ
โดยใชวิธีการประทุษรายอันละเมิดตอกฎหมายนี้ได การที่จําเลยใชมีดปลายแหลมขนาดเล็ก
แทงไปเพียง ๒ ครั้ง ก็ถือวาพอสมควรแกเหตุ เปนการปองกันโดยชอบดวยกฎหมาย
๓.๒ ถาผูนั้นไดกระทําความผิดจนเปนเหตุใหผูอื่นกอภัยขึ้นแลว แมภัยนั้น
จะเปนการละเมิดกฎหมาย ผูกระทําความผิดที่เปนเหตุใหผูอื่นกอภัยขึ้น จะอางวากระทําการปองกัน
ไมได
ในกรณีที่ผูกอภัยขึ้นกอน กับผูกระทําตอบที่ผูกอภัยจะอางปองกันไมได
ถาภัยนั้นเพียงเล็กนอย การกระทําตอบเปนการเกินสมควรที่ไมคาดคิดวาจะกระทําถึงเพียงนั้นแลว
ผูที่กอภัยครั้งแรกอาจปองกันได เชน ก. เอาอิฐขวางปาเรือน ข. แลววิ่งหนีไป ข. ถือหอกวิ่งไลทําราย
ก . แต ก. ตี ข. ตาย ดังนี้ วินิจฉัยวา ก. ไดวิ่งหนีจากหนาเรือน ข. ไปแลว ข. ไมมีเหตุอันใดที่สมควร
จะถือหอกวิ่งทําราย ก. ตอไป การกระทํา ก. จึงเปนการปองกันโดยชอบดวยกฎหมาย
๓.๓ ในกรณีตางฝายตางสมัครใจวิวาทตอสูกัน แมภัยที่แตละฝายสมัครเขาตอสู
กันนั้นจะเปนการละเมิดกฎหมาย ฝายใดจะอางวากระทําเพื่อปองกันตนไมได เพราะไมมีกฎหมาย
ใหอํานาจกระทําได จึงไมมีสิทธิปองกันภัยการวิวาทตอสูกันนั้น หมายความวาทั้งสองฝายสมัครใจ
เขาตอสูกันโดยที่การทา และรับคําทาแลวเขาตอสูกัน ในกรณีเชนนี้ใครจะเปนฝายลงมือกอนกัน
หรือไม ไมสําคัญตางก็ปองกันไมได
แตในกรณีที่อีกฝายหนึ่งทาอีกฝายหนึ่งตอบวา เอาก็เอา แตไมไดทํา
อะไรหรือในตอนตน วิวาทตอสูกันแลวแยกกันไป ตอมาจึงมีการกระทํากันขึ้นอีก เชนนี้อาจอาง
การปองกันสิทธิได
หลักที่วาผูกระทําการปองกันไมจําเปนตองหลบหนี เฉพาะที่หลบหนี
ไมทัน หรือแมจะหลบหนีทันก็ไมพนอันตรายนั้น จึงไมตองหลบหนี และใชสิทธิปองกันไดตามสมควร
แกเหตุ แตถาหลบหนีไดทันหรือพอจะหลบหนีใหพนภัยได แตไมหลบหนีกลับกระทําตอผูนั้น เชนนี้กรณี
อาจถือวาภัยยังไมใกลจะถึงไมกอใหเกิดสิทธิปองกัน อีกอยางอาจถือเปนการสมัครใจตอสูวิวาทกัน
อางสิทธิปองกันไมได