Page 96 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 96
๘๓
การปองกันสิทธินั้น ศาลจะตองพิจารณาเสมือนวา ถาจําเลยอยูในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุจําเลยจะมี
สิทธิทํารายเพื่อปองกันสิทธิของตนหรือไม ขอเท็จจริงในคดีนี้จําเลยยอมไมมีสิทธิทํารายผูตาย จึงถือ
ไมไดวาการกระทําของจําเลยเปนการปองกันสิทธิของตนโดยชอบดวยกฎหมาย
®Õ¡Ò·Õè óó/òõñð จําเลยรูตัววาผูตายจะเขามาหาจําเลย จําเลยหามและเตรียมปนไว
เพื่อยิงผูตาย ผูตายมาเคาะประตูหองนอนเรียกใหเปดประตูจําเลยเปดประตู พอผูตายยางเขาไป
จําเลยพูดวาไมตองเขามาและยิงทันที ผูตายกับจําเลยเคยไดเสียกันมากอน แมตางแตงงานไปแลว
ก็มาเสมอดั่งนี้ เห็นไดวาผูตายไปหาจําเลยตามที่เคยกระทํามา แมจําเลยจะหามก็ไมทําใหผูตาย
เขาใจวาเปนจริงจังเมื่อผูตายไปหาจําเลยก็เคาะประตูเรียกหาใชใชกําลังดึงดันจะเขาไปใหไดไม จะวา
เปนการประทุษรายอันผิดกฎหมายหาไดไม หากจําเลยไมคิดฆาผูตายแลวเพียงแตไมเปดประตู และ
แสดงความไมยินยอมใหเห็นอยางจริงจัง ผูตายก็คงยังเขาไปทําอันตรายแกจําเลยไมได แตจําเลย
กลับเปดประตูหอง ซึ่งเปนธรรมดาที่ผูตายจะเขาไป พอผูตายเขาไปจําเลยก็ยิงทันที การกระทําของ
จําเลยจึงไมเปนการปองกัน
ในกรณีที่ภยันตรายอันละเมิดกฎหมายนั้น เปนการกระทําของผูอางวากระทําการปองกัน
โดยถูกบุคคลอื่นกระทําตอผูกอภยันตรายนั้นแลวตนกระทําตอไปเชนนี้จะอางวาเปนการปองกันสิทธิ
ไดหรือไมแยกพิจารณาได
๓.๑ การตอสูขัดขวางเจาพนักงานหรือราษฎรผูกระทําการโดยชอบดวยกฎหมาย
เชน เจาพนักงานหรือราษฎรทําการจับกุมผูกระทําผิดอันละเมิดกฎหมายนั้นโดยชอบดวยกฎหมาย
ผูถูกจับกุมจะตอสูขัดขวางอางวากระทําโดยปองกันไมได เพราะไมมีสิทธิที่จะทําการปองกันโดยตนเปน
ผูกอภัยขึ้นเจาพนักงานหรือราษฎรที่ทําการจับกุมโดยชอบตางหาก เปนผูมีสิทธิที่จะใชความปองกัน
ทั้งหลายเทาที่เหมาะแกพฤติการณแหงเรื่องในการจับผูนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญามาตรา ๘๓ ฉะนั้น ในกรณีที่เจาพนักงานหรือราษฎรจับกุมผูกระทําผิดโดยชอบดวย
กฎหมายแลว แมจะถูกกระทําจากเจาพนักงานหรือราษฎรผูจับกุมทํารายเอาเพื่อการจับกุม ในกรณี
ที่ผูถูกจับขัดขวางหรือจะขวางการจับ หรือจะหลบหนีก็จะทํารายตอบอางวาปองกันไมได แตถาเปน
กรณีที่เจาพนักงานหรือราษฎรกระทําการจับกุมโดยไมชอบดวยกฎหมาย ผูจะถูกจับมีสิทธิปองกันได
เพราะถือเปนการละเมิดกฎหมาย
®Õ¡Ò·Õè öøù/òõñö (ประชุมใหญ) ขอเท็จจริงปรากฏวาผูเสียหายกับพวกเปน
เจาหนาที่ตํารวจเขาไปจับกุมจําเลยกับพวกซึ่งเลนการพนันอยูบนบานซึ่งเปนความผิดซึ่งหนา
จําเลยกับพวกก็แตกฮือออกมาหลบหนีคนละทิศคนละทาง จําเลยก็มาเผชิญหนากับผูเสียหาย
ผูเสียหายเขาไปจับจําเลย จําเลยก็สะบัดหลุด ผูเสียหายใชปนสั้นตีศีรษะแตกเลือดไหล นอกจากนั้น
ก็มีเจาหนาที่ตํารวจอื่นก็กรูเขามาเพราะเห็นมีการลงไมลงมืออยางนั้น จําเลยกลัวจะถูกทํารายอีก
ก็เลยใชมีดปลายแหลมขนาดเล็กแทงผูเสียหายซึ่งเปนเจาหนาที่ตํารวจคนที่ใชอาวุธปนตีศีรษะจําเลยแตก
แทงไป ๒ ที ผูเสียหาย ไดรับบาดเจ็บ จําเลยถูกดําเนินคดีขอหาตอสูขัดขวางการจับกุมของ