Page 52 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561
P. 52
รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
46 การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561
สรุปภาวการณ์ลงทุนตราสารหนี้ของกองทุนส่วนบุคคล บมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย ในปี 2561
ในส่วนของตราสารหนี้ บลจ.กรุงไทย ได้จัดพอร์ตตราสารหนี้แบบกระจายความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนใน
ตราสารแต่ละช่วงอายุ พร้อมกำาหนดให้พอร์ตมีอายุเฉลี่ย (Portfolio Duration) ในระดับ 0.9-1.5 ปี เพื่อให้เหมาะสม
กับนโยบายการลงทุนและแนวโน้มการเคลื่อนไหวของเส้นอัตราผลตอบแทนที่มีความผันผวนถึงมีแนวโน้มปรับตัว
เพิ่มขึ้น รวมถึงเพื่อให้พอร์ตมีความคล่องตัวในการปรับพอร์ตเพื่อสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากการนำาเงินต้น
และดอกเบี้ยไปลงทุนต่อ (Reinvestment Risk) นอกจากนี้ยังมีการกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้
ภาคเอกชนที่ผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป ในรุ่นที่ Spread ไม่ตำ่าเกินไป
เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนในตราสารภาครัฐ และมีการปรับพอร์ตระหว่างตราสารรุ่นที่มีราคาแพง
และราคาถูกเป็นระยะๆ
สำาหรับปี 2562 บลจ.กรุงไทย จำากัด (มหาชน) คาดว่าอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
แบบเส้นอัตราผลตอบแทนมีความชันลดลง ตามแนวโน้มเศรษฐกิจรวมถึงทิศทางดอกเบี้ยโลก ท่ามกลางความผันผวน
ของการไหลเข้าออกของเงินลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดีเงินเฟ้อในประเทศที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับตำ่า ค่าเงินบาทที่มี
แนวโน้มแข็งค่า สภาพคล่องส่วนเกินที่ยังอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่น่าจะขึ้นได้
ไม่มากทำาให้มองว่าอัตราผลตอบแทนน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ไม่มากเช่นกัน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2562
ปัจจัยบวก
• สภาพคล่องในระบบยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง : จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด การชะลอตัวของการลงทุนภาครัฐ
และภาคเอกชน และการไหลเข้าของเงินลงทุนต่างชาติ
• ความต้องการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น: โดยส่วนใหญ่เป็นการโยกย้าย
เงินลงทุนมาจากตลาดหุ้น
• ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า : ทำาให้มีโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะยังไม่รีบลดการถือครองตราสารหนี้ไทย
ปัจจัยลบ
• ความผันผวนของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ : จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจาก
ความขัดแย้งทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ อาทิ US-China Trade war, BREXIT รวมถึงแนวโน้ม
การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed
• กนง.ยังมีโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: เพื่อลดความเสี่ยงจากการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับตำ่าเป็น
เวลานาน และเพื่อสร้าง Policy space สำาหรับการดำาเนินนโยบายการเงินในอนาคต
• อาจมีแรงขายทำากำาไรตราสารหนี้เพื่อการปรับพอร์ต : จากการที่อัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ไม่น่าจูงใจ
• การเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ : อัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นเพื่อชดเชยภาระทางภาษีที่เพิ่มขึ้น
• การเปลี่ยนสัดส่วนประเทศไทยใน Barclays Indices : โดยสัดส่วนประเทศไทยปรับตัวลดลงประมาณ 2% ของ
Barclays Indices ซึ่งอาจส่งผลให้กองทุนต่างชาติที่ใช้ดัชนีนี้เป็นตัวชี้วัดปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทย
กลยุทธ์การลงทุน
• Maintain Portfolio Duration ให้อยู่ในช่วง 1.0-1.5 ปี โดยเน้นลงทุนในตราสารอายุไม่เกิน 3 ปี
• เพิ่มการลงทุนในหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับ A- ขึ้นไป