Page 72 - การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
P. 72

3.5 การกําหนดมาตรฐานในการปฏิบัติ

                                   3.5.1 ความเร็วในการรับโทรศัพท ใหรับดวยความเร็วไมเกิน 4 วินาที เมื่อโทรติด
               สําหรับศูนยรับแจงเหตุที่มีการติดตั้งตูชุมสายโทรศัพทที่มีระบบกระจายการเรียกเขาโดยอัตโนมัติ (Automatic

               Call Distribution) หรือไมเกิน 15 วินาที (3 กริ๊ง) เมื่อโทรติด สําหรับศูนยรับแจงเหตุที่ยังไมมีตูชุมสายโทรศัพท

               อัตโนมัติ
                                   3.5.2 ปริมาณการรับสาย ใหรับสายทุกสายที่เรียกเขา หากมีสายที่ไมไดรับบริการ

               ใหหัวหนาศูนยรีบจัดการแกไขปญหา และไมควรใหมีสายที่ไมไดรับบริการ (Abandoned Call) เกินรอยละ 1

                                   3.5.3 การรับแจง/จัดการเหตุฉุกเฉิน (Emergency Call)
                                         1) จัดใหมีระบบการบันทึกเหตุ สถานที่เกิดเหตุ ดวยคอมพิวเตอร สําหรับ

               ศูนยรับแจงเหตุที่มีการติดตั้งระบบเทคโนโลยีของสํานักงานตํารวจแหงชาติ และสมุดหรือแบบฟอรมสําหรับ
               ศูนยรับแจงเหตุที่ยังไมมีการติดตั้งระบบฯ โดยใหปรากฏขอมูล วันเวลาที่รับแจง ประเภทของเหตุ สถานที่เกิดเหตุ

               ผูแจง ผูรับแจง เวลาที่สั่งการสายตรวจ เวลาที่สายตรวจถึงที่เกิดเหตุ ผลการปฏิบัติ

                                         2)  ใหซักถามเหตุสถานที่เกิดเหตุ และสั่งการเหตุไปยังสายตรวจ หรือผูรับผิดชอบ
               ใหไดรับทราบเพื่อเดินทางไปที่เกิดเหตุ ในระยะเวลาไมควรเกิน 1 นาที โดยเฉพาะเหตุที่กําลังเกิด (In Progress)

               เหตุที่พึ่งจะเกิดขึ้น (Just Occurred) และเหตุที่ตองมีการสกัดจับ ใหซักถามเบื้องตนแลวสั่งการไปทันที
               จากนั้นจึงซักถามขอมูลแลวแจงสายตรวจเพิ่มเติม

                                         3) ใหนําระบบการระบุตําแหนงของผูแจงดวยโทรศัพท Smart Phone

               เชน การ Share Location ในโปรแกรม Line หรือการสงตําแหนงดวยโปรแกรมอื่นมาใชในการรับแจงเหตุ
               เพื่อสามารถระบุตําแหนงของผูแจงดวยความรวดเร็วและสามารถสงตอขอมูลตําแหนงของผูแจงไปยังสายตรวจ

               เพื่อเดินทางไปที่เกิดเหตุโดยถูกตอง รวดเร็ว อีกสวนหนึ่งดวย

                                         4) ใหมีการติดตามผลการปฏิบัติ วาสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุแลวหรือไม
               ใชเวลาเทาใด ผลการปฏิบัติเปนอยางไร

                                         5)  ใหมีการโทรศัพทกลับไปหาผูแจง เพื่อสอบถามผลการปฏิบัติ วัดความพึงพอใจ

               และขอเสนอแนะ
                                   3.5.4 การสกัดจับ

                                         1) พนักงานวิทยุ พึงระลึกอยูเสมอวาความเร็วในการสื่อสาร สั่งการ และการเขา
               ประจําจุด ถือเปนหัวใจสําคัญในการปฏิบัติ จึงตองรับแจงเหตุใหสั้น กระชับ ใหไดขอมูลเบื้องตนและรีบแจง

               สกัดจับไปกอน จากนั้นจึงคอยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

                                         2) ขอความที่ควรใชสําหรับพนักงานวิทยุในการสกัดจับ คือ กด Alert Tone
               สั้นๆ ติดตอกันหลายๆ ครั้ง แลวใชขอความวา “ศูนย...(ชื่อศูนย)...แจงสกัดจับกุมรถ กอเหตุ/ถูกกอเหตุ....

               (ชื่อเหตุ)..จาก..(สถานที่เกิดเหตุ)...... แลวตามดวย ประเภทรถ ยี่หอ รุน สี หมายเลขทะเบียน ที่สังเกต กอเหตุ/
               ถูกกอเหตุ...(ชื่อเหตุ)....จาก..(สถานที่เกิดเหตุ)....เมื่อเวลา........ หรือ ...(กี่นาที)... ที่ผานมา หลบหนี มุงหนา.......

               จราจร และสายตรวจสกัดจับตามแผนดวย เปลี่ยน”

                                         3) พนักงานวิทยุจะตองมีความรอบรูในพื้นที่ และเขาใจในการใชแผนที่




                                                       คูมือการบริหารงานปองกันและปราบปรามอาชญากรรม      55
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77