Page 198 - การสืบสวนสอบสวน
P. 198

๑๙๑




                               ค.  การจับกุมขาราชการชั้นพิเศษหรือเทียบเทาขึ้นไป  ทั้งในกรุงเทพมหานคร
                 และในตางจังหวัด  ใหขอรับความเห็นชอบจากปลัดกระทรวงมหาดไทยเวนแตเปนกรณีสําคัญ

                 ซึ่งถาไมทําการจับกุมทันที อาจกอใหเกิดความเสียหายหรือผลรายอยางอื่นขึ้นได เชน กรณีที่ขาราชการ
                 ผูนั้นกําลังอาละวาดหรือจะกอการราย หรือกําลังจะหลบหนีหรือเปนกรณีที่ผูบังคับบัญชาของผูนั้นเอง

                 ขอใหจับ หรือกําลังกระทําความผิดซึ่งหนาหรือจับตามหมายศาล เปนตน ก็ใหทําการจับกุมไดทันที
                               ๒.  ถานายตํารวจชั้นผูบังคับการ หรือผูรักษาการแทนขึ้นไปในกรุงเทพมหานคร หรือ

                 ผูวาราชการจังหวัด หรือผูรักษาการแทนขึ้นไปในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครเปนผูจับเอง
                 หรือสั่งใหจับไมตองขอรับความเห็นชอบจากผูใด เวนแตกรณีการจับตาม ๑. (ค) เมื่อไดมีการจับกุม

                 ขาราชการดังกลาวนี้แลวในกรุงเทพมหานคร ใหรายงานสํานักงานตํารวจแหงชาติทราบและใหพนักงาน
                 สอบสวนเจาของคดีแจงผูบังคับบัญชาของผูถูกจับไดทราบดวย  สวนในจังหวัดอื่นใหรายงาน

                 ผูวาราชการจังหวัดหรือผูรักษาการแทนทราบ แลวใหเปนหนาที่ของผูวาราชการจังหวัดหรือผูรักษาการแทน
                 ที่จะแจงผูบังคับบัญชาของผูถูกจับทราบดวย สําหรับกรณีการจับตามขอ ๑. (ค) นอกจากจะตองปฏิบัติ
                 การรายงานดังกลาวขางตนแลว ใหรายงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบ และใหพนักงานสอบสวน

                 รายงานสํานักงานตํารวจแหงชาติทราบ อีกทางหนึ่งดวย
                               ¡ÒÃᨌ§¢ŒÍ¡Å‹ÒÇËÒ ¡ÒèѺ ¡ÒäØÁ¢Ñ§ ËÃ×Í¡ÒÃÍÍ¡ËÁÒÂàÃÕ¡μÑÇÊÁÒªÔ¡

                 ÊÀҼٌ᷹ÃÒÉ®ÃËÃ×ÍÊÁÒªÔ¡ÇØ²ÔÊÀÒ (»ÃÐÁÇÅÃÐàºÕº¡ÒÃตําÃǨà¡ÕèÂǡѺ¤´Õ ÅÑ¡É³Ð ó º··Õè ÷)
                               ขอ ๔๓  เนื่องจากรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๖ บัญญัติ

                 ใหรัฐธรรมนูญเปนกฎหมายสูงสุดของประเทศ  บทบัญญัติใดของกฎหมาย  กฎ  หรือขอบังคับ
                 ขัดหรือแยงตอรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นเปนอันใชบังคับมิได และตามมาตรา ๑๓๑ ไดบัญญัติถึงขอหาม

                 และขอพึงปฏิบัติสําหรับตํารวจและพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการจับการคุมขังหรือการออกหมายเรียกตัว
                 สมาชิกสภาผูแทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไวหลายประการอันเปนการบัญญัติถึงการปฏิบัติที่แตกตาง

                 ไปจากการปฏิบัติตอบุคคลทั่วไปที่มิไดเปนสมาชิกสภาผูแทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาซึ่งสามารถสรุป
                 หลักการปฏิบัติของตํารวจและพนักงานสอบสวนไดดังนี้

                               (๑)  ในระหวางสมัยประชุม
                                  ๑.๑  ในระหวางสมัยประชุม หามมิใหจับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิก

                 สภาผูแทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา ไปทําการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผูนั้นเปนผูตองหาในคดีอาญา
                 เวนแตในกรณีที่ไดรับอนุญาตจากสภาที่ผูนั้นเปนสมาชิก หรือในกรณีที่จับในขณะกระทําความผิด

                 ขอหามดังกลาวขางตน ไมใชเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของผูที่เปนสมาชิกสภาผูแทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
                 ที่จะสละไดดวยตนเอง เพราะเปนขอหามที่มีวัตถุประสงคเพื่อประโยชนสวนรวมของประเทศชาติ
                 การปฏิบัติของตํารวจหรือพนักงานสอบสวนในเรื่องนี้จะตองพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบวามี

                 หลักฐานการไดรับอนุญาตจากสภาที่ผูนั้นเปนสมาชิกอยูหรือไม  การไดรับอนุญาตจากสภา

                 หมายความถึง การไดรับอนุญาตโดยมติของสภาที่ผูนั้นเปนสมาชิกเทานั้น กําหนดใหผูดํารงตําแหนงระดับ
   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203