Page 212 - report-06-final-ลายนำ_Neat
P. 212
้
่
หนา ๒๐๒ ส่วนที ๔
ั
ึ
ี
ั
ิ
่
การบรหารจัดการในแต่ละเขตไมแตกต่างกนมากนัก มการประสานงานกบกระทรวงอุดมศกษา
่
้
ี
การวิจัยและนวัตกรรม และระหว่างมหาวิทยาลัยทีมโรงพยาบาล และหน่วยงานอืนรวมทังมการ
่
ี
็
่
ิ
ส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล โดยการให้บรการแบงเปนสามระดับ ประกอบด้วย ระบบบรการ
ิ
ู
ิ
ู
ปฐมภม ทุติยภมและตติยภม และการให้บรการระดับปฐมภมจะต้องมีการพัฒนาแต่เกิด
ิ
ู
ิ
ิ
ิ
ู
ข้อจํากดด้านทรพยากรและบคลลากร ด้วยเหตุข้างต้นจึงมแนวทางใช้เวชศาสตรครอบครวมา
ี
ั
์
ั
ุ
ั
ิ
์
่
ู
ิ
์
ิ
็
ช่วยการให้บรการปฐมภม และส่งเสรมให้แพทยทัวไปเรยนเพิมเติมเพือทําหน้าทีเปนแพทยเวช
่
ี
่
่
์
ั
ศาสตรครอบครว และส่งผูปวยเรือรงไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขตําบล ในระยะยาวทุก
้
้
่
ั
ั
้
่
ื
้
ี
่
โรงพยาบาลมผูปวยโรคเรอรงจํานวนมากโดยเฉลียสัปดาห์ละ ๕,๐๐๐ คน จะต้องแกปญหา
ั
้
ั
่
้
้
ื
ความแออัด ซึงสถานพยาบาลปฐมภมจะช่วยแกไขปญหาได้ระดับหนึง โดยกระจายคนไขเรอรง
้
ิ
ั
่
ู
ั
้
ิ
้
ิ
่
่
ู
ไปสถานพยาบาลปฐมภมเพือช่วยลดปญหาขางต้น เนืองจากคนไขเกนกว่าโรงพยาบาลชุมชนจะ
่
่
ดูแลได้จะไปรวมกันทีโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทัวไป เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร
้
ี
ี
้
ปทุมธานี นครปฐม เปนต้น ทังนี กระทรวงสาธารณสุขพยายามจะให้มจํานวนเตียง มพืนที ่
็
้
ี
้
ั
ุ
่
้
่
่
รองรับผูปวยเพียงพอเพือการใช้ทรพยากรคมคาและเกิดประโยชน์สูงสุด และมแนวทางลดภาระ
่
่
้
ื
ั
้
้
ของความแออัดเบองต้น อาทิ การรบยาทีบาน การตรวจและเจาะเลือดทีบาน
้
ส่วนการบริการสาธารณสุขของกรุงเทพ มีหน่วยงานทีดูแลมีทังโรงพยาบาลของ
่
ั
ั
่
มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสงกดอืนและโรงพยาบาล
เอกชน โดยการเข้าถึงบรการระดับปฐมภมมมากกว่า ๕,๒๐๐ กว่า แห่ง ถ้าไมสามารถดูแลได้
ี
ิ
ิ
่
ู
่
้
ั
่
เพียงพอกจะเกิดปญหาผูปวยล้นและแออัดในเขตกรุงเทพฯ และถ้าผู้ป่วยมีโรคทีมีความซับซ้อน
็
้
ึ
่
มากขนจะส่งต่อไปยงโรงพยาบาลระดับทัวไปประมาณ ๑๕๖ แห่ง และภาพรวมในการ
ั
ํ
ดําเนินการระบบส่งต่อจะมรปแบบเดียวกน แต่ในด้านกาลังพลถาพิจารณาตามภาระงานและ
ู
้
ี
ั
ํ
ี
อัตราการไปใช้บรการในโรงพยาบาลต่อคนต่อป โดยเฉลยมภาระหนก กาลังพลคงไมพอใน
ี
่
ี
ิ
่
ั
่
้
ั
ภาพรวม รวมทังปญหาการกระจายของบุคลากร และงบประมาณทีได้รับมาพอจะบริหาร
ิ
้
้
ั
ิ
จัดการได้ในระดับหนึง และในขณะนีผูรบบรการเขาถึงบรการของสถานพยาบาลเพิมขึน รวมทง
้
่
ั
่
้
้
้
้
่
ํ
ี
ี
ู
ั
่
่
ํ
การเข้าถึงข้อมลต่าง ๆ เกยวกบผูปวยและการวินิจฉัยโรคมความแมนยามากขึนจากการนา
เทคโนโลยมาปรบใช้ในทางการแพทย ์
ี
ั
ุ
้
่
ิ
้
ึ
อีกทางหนง ในมมมองของผูซือบรการ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ํ
(สปสช.) กาลังดําเนินการเพือลดความแออัดของการใช้บรการในสถานพยาบาล และปัญหาของ
่
ิ
งบประมาณทได้รบการจัดสรร ด้วยการนําเทคโนโลยมาช่วยการบรหารจัดการเพือยกระดับ
ิ
ั
ี
ี
่
่
บรการสุขภาพให้กบประชาชน กล่าวคอ ข้อมลจากการสํารวจผูไปใช้บรการเกนรอยละ ๖๐ ไม่
ู
ั
ื
ิ
้
้
ิ
ิ
ั
้
์
ึ
้
ไปใช้สิทธิเพราะใช้เวลารอพบแพทยนาน รวมทังจากการศกษาพบแนวทางการแกไขปญหา
้
เบองต้น เช่น การรบยาใกล้บานในกรณีผูปวยโรคเรอรง และจากการศกษามผลการประเมินว่า
้
ั
ื
ื
้
ึ
้
ี
ั
่
ประชาชนพอใจในระดับหนึง และแนวทางการจัดบรการระดับปฐมภมจะใช้แพทยเวชศาสตร ์
่
ิ
ิ
์
ู
ิ
ั
้
ครอบครวมาช่วยให้บรการ โดยการลงเยียมบานและการให้บริการถึงทีแก่ผูป่วย คลินิกชุมชน
่
่
้
้
้
่
่
เปนต้น รวมทังการส่งยาให้ผูปวยทีบาน อาทิ ผูปวยโรคไต โดยโรงพยาบาลสามารถส่งยาทีผูปวย
็
่
่
้
้
่
้