Page 80 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 80
โกสิยะไม่เห็นด้วย อ้างเหตุผลต่างๆ นานา ภริยาได้ถามเป็น
ค�าสุดท้ายว่า ถ้าอย่างนั้นเราท�าให้พอกินเฉพาะเรา ๒ คนเท่านั้น
ท่านจะพอใจหรือไม่ โกสิยะตอบว่าเธอจะเดือดร้อนท�าไม เมื่อก่อนนี้
เธอไม่เคยพูดว่าอยากกินขนมเบื้อง เพราะฉันอยากกินเธอก็เกิดอยาก
ขึ้นมาบ้าง อย่างนี้เป็นโรคเอาอย่างกันไม่เกิดประโยชน์ ท�าทิ้งท�าขว้าง
ไม่รู้จักสิ้นเปลือง อวดมั่งอวดมี เอาขี้ประชดหนอนจะได้ประโยชน์อะไร
อย่าท�าเลยดีกว่า ถ้าเอาปากเอาท้องของเธอมาเกี่ยวข้องด้วย
เพราะความเกรงใจสามี ภริยาจึงพูดว่า ถ้าอย่างนั้นเราท�าขนม
เบื้องเฉพาะท่านคนเดียว คนอื่นไม่ต้องให้กิน แม้ฉันคนท�าก็ไม่ได้ลิ้ม
รส ดีแล้วคนอื่นให้มันนั่งกลืนน�้าลายเอา เป็นอันตกลงว่าท�าเฉพาะท่าน
คนเดียว เราจะต้องท�าที่ไหนดี เศรษฐีแนะน�าว่า ต้องตั้งเตาท�าบนบ้าน
ชั้นบน อย่าให้ใครมองเห็น อย่าให้ใครรู้ ถ้าใครรู้เขาจะพากันมาขอกิน
เราต้องท�าในที่ลับโดยเฉพาะ คือต้องท�าในปราสาทชั้นยอด ปิดประตู
หน้าต่างหมด
ภรรยาต้องยอมตกลงตามนั้น ช่วยกันยกเตาและเครื่องอุปกรณ์
ในการท�าขนมเบื้องสู่ปราสาทชั้นบน และก็ลงมือละเลงขนมเบื้อง
โกสิยะเศรษฐีก็นั่งเฝ้าดูภรรยาท�าขนมเบื้องด้วยความกระหาย
วันนั้นสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรวจดูโลก ทรงเห็นโกสิยะ
ข้องอยู่ในข่ายคือพระญาณ ทรงทราบว่าโกสิยะมีบารมีอบรมมานาน
มีอุปนิสัยแก่กล้าควรแก่มรรคผล แต่เศรษฐีผู้นี้มีมัจฉริยะเหนียวแน่น
ยิ่งนัก ยากแก่การแนะน�า จึงทรงเลือกหาผู้จะเข้าไปติดต่อถึงตัวเศรษฐี
ทรงเห็นว่าพระโมคคัลลานะเท่านั้น ที่มีความสามารถจะทรมาน
ให้เศรษฐีมีความเลื่อมใสได้ จึงตรัสสั่งให้พระโมคคัลลานะไปน�าตัว
เศรษฐีมาเฝ้า
54 จรัมบุญ