Page 78 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 78

๖. ควรท�าความส�าคัญในแสงสว่าง อาโลกสัญญา
                       ๗. ควรจงกรมส�ารวมอินทรีย์

                       ๘. ควรนอนตะแคงขวา มีสติสัมปชัญญะ ก�าหนดใจว่าจะลุกขึ้น

                       พระพุทธเจ้าทรงแนะอุบายให้แก่พระโมคคัลลานะ  เพื่อก�าจัด
                ความง่วงเหงาหาวนอน แล้วตรัสสอนให้ส�าเหนียกต่อไปว่า



                       ๑. เรำจักไม่ชูงวง เข้ำสู่สกุล

                       ข้อนี้ทรงสอนให้พุทธสาวกไม่ให้ใช้มานะ (การถือตัว) กับใคร
                ผู้ใด  ให้ถือเอาประโยชน์แห่งการสมาคม  เพื่อให้ส�าเร็จประโยชน์ตน

                และผู้อื่น ด้วยอัธยาศัยไมตรี เพราะผู้ถือตนเหมือนช้างชูงวงอวดดีนั้น

                ไม่มีผลดีแก่ตน  ผู้เช่นนั้นเหมือนหญ้าละมานที่เกิดปะปนกับต้นข้าว
                รวงข้าวนั้นเมื่อแก่เต็มที่ รวงก็นอนราบหมด ยิ่งข้าวเมล็ดงามเพียงไร
                รวงข้าวก็อ่อนน้อมราบเร็ว แสดงให้เห็นเมล็ดข้าวนั้นๆ มีผลดี ไม่ชูรวง

                อวดใคร ส่วนหญ้าละมานนั้น เป็นข้าวลีบชูรวงอยู่กลางนา เป็นข้าวลีบ

                ที่ไม่มีสาระอะไร ไม่มีใครปรารถนา เกิดรกนา ท�าลายพันธุ์ข้าวที่ดีให้เสื่อม
                ข้าวลีบเป็นฉันใด คนชูงวงก็เป็นฉันนั้น
                       อาจเป็นเพราะพระโอวาทนี้ก็ได้  พระโมคคัลลานะจึงได้รับ

                ยกย่องจากพระบรมศาสนา เมื่อคราวไปทรมานมัจฉริยเศรษฐี ผู้เป็น

                เศรษฐีขี้เหนียวที่สุดในโลกครั้งพุทธกาล  ให้เลื่อมใสศรัทธาเห็นผล
                ในการเสียสละได้ว่า มีการกระท�าเหมือนแมลงผึ้ง แสวงหาน�้าหวาน



                          พระโมคคัลลานะทรมานเศรษฐีจอมขี้เหนียว

                       มีเรื่องแสดงไว้ในอรรถกถาพระธรรมบทว่า โกสิยะเศรษฐีขี้เหนียว
                คนนี้ เป็นชาวเมืองสาวัตถี มีโภคสมบัติมาก แต่อดอยากยิ่งกว่าคนจน




            52 จรัมบุญ
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83