Page 79 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 79
คงเป็นอย่างที่ชาวบ้านพูดกันว่า ส้มเขียวหวานผลเดียว ๒ คนผัวเมีย
กินวันเดียวไม่หมด เวลาเช้ากินคนละกลีบเท่านั้นก็ชื่นใจไป ๒ - ๓ ชั่วโมง
โกสิยะเศรษฐีผู้นี้ก็มีลักษณะเป็นอย่างนั้น วันหนึ่งอยากกิน
ขนมเบื้อง จึงปรารภกับภรรยาว่าควรท�าอย่างไร ภรรยาเป็นคนใจใหญ่
คิดว่าตั้งแต่สมรสร่วมกันมาไม่เคยได้ยินสามีปรารภว่าจะรับโน่นกินนี่
วันนี้อัศจรรย์ยิ่งนัก จึงตอบสามีว่ายินดีจะท�าให้กิน และท�าให้มาก
เพื่อแจกจ่ายแก่เพื่อนบ้านเรือนเคียงด้วย
โกสิยะพูดว่า ไม่ต้องถึงอย่างนั้น เสียของเปล่าๆ เราจะรู้ได้อย่างไร
ว่าชาวบ้านจะกระหายขนมเบื้องแข่งขันกับเรา ถ้าเขาไม่กินหรือกินเรา
ก็เสียของเปล่าโดยใช่เหตุ ใครอยากกินก็หากินเอาเอง เธออย่าท�าใจใหญ่
จนคับโครงเลย ดีไม่ดีชาวบ้านเขาจะด่าว่าอวดรวย
ภรรยาพูดคล้อยตามว่า ถ้าอย่างนั้นเราท�าให้พอแก่คนในบ้าน
ของเรา ลูกหญิงลูกชายข้าทาสชายหญิง ให้ได้กินขนมเบื้องทั่วถึงกัน
ทุกคน อย่างนี้จะดีไหม
โกสิยะพูดว่า เธอคิดอะไรมีแต่ทางเปลืองและทางล�าบาก
เราจะต้องการอะไรแก่พวกนั้น ถ้าเราท�าให้เขากิน หากเกิดความติดใจ
ขึ้นมา เขามารบกวนให้เธอท�าอีก ก็มีแต่ล�าบากและสิ้นเปลือง
เมื่อพวกนั้นยังไม่เคยกิน ก็อย่าเพิ่งให้รู้รสดีกว่า อย่าต้องให้ล�าบาก
และสิ้นเปลืองเลย
ภรรยาเกิดความหนักใจ จะแนะน�าอย่างไรเศรษฐีก็ไม่เห็นดีด้วย
จึงพูดให้แคบเข้ามาว่า ถ้าอย่างนั้นเราท�าให้พอกินเฉพาะลูกหลานเรา
คนอื่นไม่เกี่ยวข้อง ท่านจะเห็นชอบด้วยไหม ถ้าเห็นชอบด้วยจะได้
เตรียมการต่อไป
53
จรัมบุญ