Page 19 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 19
91
วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ
เมื อมีกำรศึกษำและท่ำควำมเข้ำใจของกำรฝึกฝนแล้ว อีกหลักธรรมหนึ งที จะเป็นเครื องช่วยท่ำให้ เจ็บป่วย กำรเดินทำง ค่ำใช้จ่ำย ควำมอยำกได้ อยำกมี อยำกเป็น ควำมรัก ควำมหลงเชื อ ควำมไม่อยำกได้ ไม่
เจริญ มีกำรฝึกฝนพัฒนำตนเองให้ดียิ งขึ้นไป คือ ภำวนำ 4 หมำยถึง กำรเจริญ, กำรท่ำให้มีขึ้น, กำรฝึกอบรม, อยำกมี ไม่อยำกเป็น ควำมโกรธ ควำมไม่เท่ำเทียม ควำมเซง ควำมเบื อหน่ำย ควำมท้อแท้ ควำมพ่ำยแพ้ ควำม
กำรพัฒนำ ได้แก่ 1) กำยภำวนำ หมำยถึง กำรเจริญกำย พัฒนำกำย กำรฝึกอบรมกำย ให้รู้จักติดต่อเกี ยวข้อง ไม่สมหวัง ควำมเสียใจ ควำมไม่สบำยใจที เกินควำมพอเหมำะพอควร เป็นต้น. ควำมทุกข์ทำงจิตใจที เกิดจำก
กับสิ งทั้งหลำยภำยนอกทำงอินทรีย์ทั้ง 5 ด้วยดี และปฏิบัติต่อสิ งเหล่ำนั้นในทำงที เป็นคุณ มิให้เกิดโทษ ให้กุศล ควำมเกินพอดีในเรื องต่ำง ๆ ดังกล่ำว สำมำรถป้องกันและดับได้โดยง่ำย ด้วยกำรปฏิบัติธรรมหรือบริหำรจิต
ธรรมงอกงำม ให้อกุศลธรรมเสื อมสูญ กำรพัฒนำควำมสัมพันธ์กับสิ งแวดล้อมทำงกำยภำพ 2) สีลภำวนำ อย่ำงง่ำย ๆ ในชีวิตประจ่ำวัน
หมำยถึง กำรเจริญศีล พัฒนำควำมประพฤติ กำรฝึกอบรมศีล ให้ตั้งอยู่ในระเบียบวินัย ไม่เบียดเบียนหรือก่อ ในชีวิตประจ่ำวัน กำรมีสติในกำรใช้ข้อมูลด้ำนสติปัญญำทำงธรรมในควำมจ่ำ ท่ำกำรรู้เห็นและควบคุม
ควำมเดือดร้อนเสียหำย อยู่ร่วมกับผู้อื นได้ด้วยดี เกื้อกูลแก่กัน 3) จิตภำวนำ หมำยถึง กำรเจริญจิต กำรพัฒนำ ควำมคิดให้เป็นไปตำมหลักธรรม จึงมีประโยชน์อย่ำงมำกมำยต่อท่ำน ทั้งด้ำนกำรปฏิบัติงำนและกำรด่ำเนิน
จิต กำรฝึกอบรมจิตใจ ให้เข้มแข็งมั นคงเจริญงอกงำมด้วยคุณธรรมทั้งหลำย เช่น มีเมตตำกรุณำ ขยันหมั นเพียร ชีวิตอย่ำงเป็นรูปธรรม
อดทนมีสมำธิ และสดชื น เบิกบำน เป็นสุขผ่องใส เป็นต้น และ4) ปัญญำภำวนำ หมำยถึง กำรเจริญปัญญำ กำร กำรพัฒนำจิตตำมหลักธรรมในพระพุทธศำสนำ เป็นวิชำกำรทำงด้ำนจิต(จิตใจ)ที เรียบง่ำย
พัฒนำปัญญำ กำรฝึกอบรมปัญญำ ให้รู้เข้ำใจสิ งทั้งหลำยตำมเป็นจริง รู้เท่ำทันเห็นโลก และชีวิตตำมสภำวะ ตรงไปตรงมำ ทุกคนสำมำรถพิสูจน์ได้โดยง่ำย ไม่เกี ยวข้องกับควำมหลงเชื อ. เมื อนิสิตได้ศึกษำและทดลองฝึก
สำมำรถท่ำจิตใจให้เป็นอิสระ ท่ำตนให้บริสุทธิ์จำกกิเลส และปลอดพ้นจำกควำมทุกข์ แก้ไขปัญหำที เกิดขึ้นได้ ปฏิบัติดู จะได้รับผล ภำยในวินำทีที ลงมือฝึกปฏิบัติ คือ จะมีควำมเบำสบำย สงบ ไม่มีควำมทุกข์ภำยในจิตใจ
ด้วยปัญญำ ในบำลีที มำ ท่ำนแสดงภำวนำ 4 นี้ ในรูปที เป็นคุณบทของบุคคล จึงเป็น ภำวิตกำย ภำวิตศีล ภำวิต และจิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส โดยไม่ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยใดๆ เพรำะเป็นเรื องของกำรใช้สติปัญญำของตนเอง.
จิต ภำวิตปัญญำ หมำยถึงผู้ได้เจริญกำย ศีล จิต และปัญญำแล้ว บุคคลที มีคุณสมบัติชุดนี้ครบถ้วนย่อมเป็นพระ 2. ประโยชน์ด้านการปฏิบัติงาน
อรหันต์ ในด้ำนกำรพัฒนำทำงด้ำยกำยนั้น เป็นกำรพัฒนำมีควำมสัมพันธ์ต่อสิ งแวดล้อมทำงกำยภำพ โดย กำรจะพัฒนำจิตใจของตนเอง ได้ดีนั้น ต้องศึกษำเรื องสติและฝึกเจริญสติเป็นประจ่ำ จึงจะท่ำให้
19
20
เฉำะทำงด้ำน อินทรีย์ทั้ง 5 ได้แก่ ตำ หู จมูก ลิ้น และกำย ให้มีเกื้อกูลกันและกัน ด้ำนสีลภำวนำ เป็นกำรเจริญ ท่ำนมีสติตั้งมั น(มีควำมตั้งใจแน่วแน่)ในกำรปฏิบัติงำน ไม่เผลอสติ ไม่คิดฟุ้งซ่ำน ไม่คิดและท่ำกิจอื นที ไม่
ศีล พัฒนำศีล พัฒนำควำมสัมพันธ์ และควำมประพฤติ ให้อยู่ร่วมกัน โดยตั้งอยู่ในระเบียบวินัย ไม่เบียดเบียด เกี ยวข้องกับกำรงำน จึงท่ำให้มีกำรคิด พิจำรณำ ท่ำควำมเข้ำใจ จดจ่ำ แก้ปัญหำ วำงแผนต่ำง ๆ ได้เป็นอย่ำงดี
ซึ งกันและกัน ช่วยเหลือซึ งกันและกันกับผู้อื นในสังคมด้วยดี ด้ำนจิตภำวนำ เป็นกำรพัฒนำจิต ท่ำให้จิตมีควำม เป็นเหตุให้ผลของกำรปฏิบัติงำนดีขึ้น ตำมก่ำลังควำมสำมำรถของข้อมูลด้ำนสติปัญญำ ทำงโลกและข้อมูลด้ำน
21
เข้มแข็ง มั นคง มีควำมเมตตำกรุณำ ขยันหมั นเพียร เป็นสุข ผ่องใสดีงำม เจริญงอกงำมด้วยคุณธรรม และด้ำน สติปัญญำทำงธรรมที มีอยู่ในควำมจ่ำขณะนั้น
ปัญญำภำวนำ เป็นกำรพัฒนำด้ำนปัญญำ ให้มีกำรเสริมสร้ำงฝึกฝนปัญญำให้มีควำมรู้ชัดในควำมเป็นจริงเป็น ถ้ำไม่มีสติในกำรท่ำงำน หรือมีสติน้อย ควำมคิดฟุ้งซ่ำนก็มักจะมำกขึ้น รวมทั้งมีกำรใช้เวลำไปคิด
ปัจจุบัน รู้และเข้ำใจในสิ งที เป็นไป รู้แจ้งในโลก ใช้ชีวิตตำมสภำวะ สำมำรถแก้ไขปัญหำด้วยปัญญำ มีชีวิตที ดี และท่ำเรื องอื นบ่อยขึ้น ท่ำให้ควำมสำมำรถของสมองในกำรคิดพิจำรณำ กำรจดจ่ำ และกำรปฏิบัติงำนลดลง
งำมโดยปรำศจำกทุกข์ทั้งปวง ขำดประสิทธิภำพในกำรท่ำงำน และผลของกำรปฏิบัติงำนก็จะต ่ำลงด้วยกำรฝึกพัฒนำจิตโดยกำรพยำยำมมีสติ
1. ประโยชน์ของการพัฒนาจิตแนวพุทธ อยู่ตลอดเวลำในกำรปฏิบัติงำน จะท่ำให้สมองของท่ำนมีข้อมูลด้ำนสติมำกขึ้น พอนำนเข้ำ สติในกำรปฏิบัติงำน
กำรพัฒนำจิต(จิตใจ)ตำมหลักธรรมในพระพุทธศำสนำ เป็นวิชำกำรทำงด้ำนจิต(จิตใจ)ที เรียบง่ำย ก็จะมีมำกขึ้น ควำมฟุ้งซ่ำนก็จะลดลง เป็นผลให้เกิดกำรพัฒนำควำมสำมำรถของกำรมีสติในกำรปฏิบัติงำนดีขึ้น
ตรงไปตรงมำ ทุกคนสำมำรถพิสูจน์ได้โดยง่ำย ไม่เกี ยวข้องกับควำมหลงเชื อ. เมื อท่ำนได้ศึกษำและทดลองฝึก ตำมล่ำดับ และผลของกำรปฏิบัติงำนก็จะดีขึ้นด้วย เมื อท่ำนมีสติมำกขึ้น มีข้อมูลสติปัญญำทำงวิชำกำรมำก
ปฏิบัติดู จะได้รับผล ภำยในวินำทีที ลงมือฝึกปฏิบัติ คือ จะมีควำมเบำสบำย สงบ ไม่มีควำมทุกข์ภำยในจิตใจ
และจิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส โดยไม่ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยใด ๆ เพรำะเป็นเรื องของกำรใช้สติปัญญำของตนเอง ควำม
ทุกข์ทำงจิตใจของท่ำนที น่ำจะพบได้บ่อยเมื อเกิด "ควำมเกินควำมพอเหมำะพอควร(นอกทำงสำยกลำง)" ใน 20 พระครูนิวิฐธุรำทร. ผู้ช่วยเจ้ำอำวำสพระอำรำมหลวง วัดตำกฟ้ำ, “ เรื่อง สภาพและปัญหาการจัดการเรียน
เรื องต่ำง ๆ เช่น ควำมวิตกกังวล ควำมเครียด ควำมเหนื อยอ่อน กำรพักผ่อนไม่เพียงพอ ปัญหำสุขภำพ กำร การสอน พระปริยัติธรรม แผนกบาลี ของส านักศาสนศึกษา ในจังหวัดนครสวรรค์” (ปีการศึกษา 2549),[ออนไลน์].
แหล่งข้อมูล : https://www.gotoknow.org/userfile, [10 สิงหำคม 2560].
21 พจนำนุกรมศัพท์ศำสนำสำกลอังกฤษ-ไทย ฉบับรำชบัณฑิตยสถำน. พิมพ์ครั้งที 2. กทม.รำชบัณฑิตย -สถำน.
19 องฺ. ปญฺจก. 22/79/121. 2548, หน้ำ 581-582.