Page 5 - คณะกรรมาธิการ เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้
P. 5

3. พัฒนำกำรของคณะกรรมำธิกำรเชิงเปรียบเทียบ
                       ในที่นี้ขอน าเสนอบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2540, 2550 และ 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ

         คณะกรรมาธิการทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่เปลี่ยนแปลงไปในสาระส าคัญเชิงเปรียบเทียบ ดังนี้

                       3.1 คณะกรรมาธิการตามรัฐธรรมนูญ 2540
                        “สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามีอ านาจเลือกสมาชิกของแต่ละสภา

               ตั้งเป็นคณะกรรมาธิการสามัญ และมีอ านาจเลือกบุคคลผู้เป็นสมาชิกหรือมิได้เป็นสมาชิก
               ตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อกระท ากิจการ พิจารณาสอบสวน หรือศึกษาเรื่องใด ๆ

               อันอยู่ในอ านาจหน้าที่ของสภา แล้วรายงานต่อสภา มติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าว
               ต้องระบุกิจการหรือเรื่องให้ชัดเจนและไม่ซ้ าหรือซ้อนกัน

                       คณะกรรมาธิการตามวรรคหนึ่งย่อมมีอ านาจออกค าสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลใด
               หรือเรียกบุคคลใด มาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระท า

               หรือในเรื่องที่พิจารณาสอบสวนหรือศึกษาอยู่นั้นได้
                       ในกรณีที่บุคคลตามวรรคสองเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของ

               หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น

               ให้ประธานคณะกรรมาธิการแจ้งให้รัฐมนตรีซึ่งบังคับบัญชาหรือก ากับดูแลหน่วยงาน
               ที่บุคคลนั้นสังกัดทราบและมีค าสั่งให้บุคคลนั้นด าเนินการตามวรรคสอง

               เว้นแต่เป็นกรณีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์ส าคัญของแผ่นดิน
               ให้ถือว่าเป็นเหตุยกเว้นการปฏิบัติตามวรรคสอง” 8

                       จะเห็นได้ว่า การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินผ่านกลไกการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการถือ
         ว่าเป็นการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินโดยทางอ้อม โดยผลของการควบคุมตรวจสอบไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรง

         ต่อเสถียรภาพของฝ่ายบริหารมากนัก โดยหลักการแล้วเป็นการพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาบัญญัติหรือประเด็นปัญหา

         ใดๆ เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินควบคู่ไปกับการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหาร โดยจัดท าเป็นรายงานการ
         พิจารณาศึกษาของรัฐสภาผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีข้อผูกพันว่ารัฐบาลจะต้องน าไปปฏิบัติ เป็นเพียง

         ข้อเสนอแนะซึ่งรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารจะน าไปปฏิบัติหรือไม่ก็ได้  9
                       3.2 คณะกรรมาธิการตามรัฐธรรมนูญ 2550

                       “คณะกรรมาธิการตามวรรคหนึ่งมีอ านาจออกค าสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลใด
                       หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระท า

                       หรือในเรื่องที่พิจารณาสอบสวนหรือศึกษาอยู่นั้นได้ และให้ค าสั่งเรียกดังกล่าว
                       มีผลบังคับตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่ค าสั่งเรียกเช่นว่านั้นมิให้ใช้บังคับกับผู้พิพากษา

                       หรือตุลาการที่ปฏิบัติตามอ านาจหน้าที่ในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี




                        8 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 189 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสามตามล าดับ
                        9
                         มนตรี รูปสุวรรณและคณะ, รายงานฉบับสมบูรณ์ ชุด โครงการวิจัยการติดตามและประเมินผลบังคับใช้รัฐธรรมนูญ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่าย
          บริหารและเสถียรภาพของรัฐบาล. (หน้า 74)                                                      5
   1   2   3   4   5   6   7