Page 421 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 421
“พาราณสี”
วันรุ่งข้นพวกเราออกจากพุทธคยาแต่เช้าเพ่อเดินทางไปนาลันทา
ึ
ื
ี
ื
ึ
เม่อเดินทางมาถึงวัดไทยนาลันทาก็ข้นไปพักในท่ทางวัดท่านเตรียมไว้
ี
ต้อนรับ และได้ปฏิสันถารกับครูบาอาจารย์ท่ท่านเป็นเจ้าวัดฯ พระเรา
ฉันภัตตาหารเช้า ส่วนญาติโยมก็ได้รับประทานอาหารเช้ากันท่น่นเลย
ั
ี
ซ่งทางวัดท่านได้เตรียมอาหารไว้ต้อนรับแล้วเช่นกัน เสร็จจากน้นแล้ว
ึ
ั
ื
จึงไปเย่ยมชมมหาวิทยาลัยนาลันทา ซ่งเม่อไปถึงก็ได้เห็นเพียงแต่
ี
ึ
ี
ซากเป็นบริเวณกว้างใหญ่อยู่นะเหลือแต่ซากอิฐ ตัวอาคารท่ปรักหักพัง
ื
ี
ก็มีแต่อิฐ เป็นรูปทรงพ้นท่ของบริเวณตัวอาคารแต่เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ
ั
เท่าน้น เห็นว่าท่านทาเป็นห้องเป็นหับเป็นกลุ่มอาคารแยกกันอยู่
�
หลายกลุ่ม ดูจากซากก็เห็นเป็นแถวเป็นแนวอยู่ เขาอธิบายว่าเป็น
ี
ี
ท่พักส�าหรับพระสงฆ์ท่มาศึกษาพระพุทธศาสนาท่นาลันทา แต่ก่อน
ี
ี
เขาก็ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยอยู่แล้วเป็นส�านักท่ประสิทธ์ประสาท
ิ
่
ึ
ู
วชาทางพระพทธศาสนา และได้ไปดตรงทหนงทีเขาว่าเป็นบริเวณบ้าน
ุ
่
ิ
่
ี
ของพระสารีบุตรด้วย (เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยนาลันทา คงจะถือเอา
ี
ี
ว่ามาสร้างในท่บ้านของพระสารีบุตร เราเองดอกท่คิดว่าคงจะเป็น
ิ
ั
อย่างน้น) พวกเราเข้าไปดูก็ไม่พบซากหรือช้นส่วนของสิ่งของอะไร
ั
มากไปกว่าน้น รวมแล้วก็มีแต่อิฐก่อเป็นรูปร่างแปลนของอาคาร
เป็นล็อก ๆ ซ่งความคิดของเราเองคิดว่าคงจะไม่ใช่อิฐของสมัยพุทธกาล
ึ
ี
เพราะสภาพอิฐเหล่ยมคมอะไรมันยังเป็นอิฐสมบูรณ์ค่อนข้างจะใหม่
ื
ื
ั
้
ื
อย่ เมองอินเดียนนฝีมอทาอฐของเขาเป็นทเล่องลอดีมากนะ เผา
ู
ื
�
ี
ิ
่
ดีมาก มาสมัยใหม่เขาใช้เตามีปล่องข้นไปเหมือนโรงสีข้าวใหญ่ ๆ
ึ
ในบ้านเราเลย อิฐของเขาค่อนข้างจะก้อนใหญ่กว่าบ้านเราเยอะ
l
ความเปนมาของเรา 407
็