Page 420 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 420
ี
สมัยพุทธกาล การอาบน�้าท่ตโปทารามก็มีกล่าวไว้ในพระธรรมวินัย
ึ
ิ
ี
ในพระพุทธศาสนาด้วยเหมือนกัน มีพระวินัยข้อหน่งท่ทรงบัญญัต
�
ไว้ว่า ภิกษุในมัชฌิมประเทศ ๗ วันจำึงอาบน้าได้หนหนึ่ง ส่วนภิกษุที่อยู่
ิ
ในปัจำจำันตชนบทอาบได้เป็นนจำ ดังน้ก็เน่องมาจำากสมัยท่พระพุทธองค์
ี
ื
ี
�
ี
ุ
ั
ประทับท่พระเวฬุวันน้น พระภิกษจำากพระอารามออกไปอาบน้าร้อน
�
ท่ตโปทารามเป็นประจำา จำะเป็นด้วยพระอาบแช่นาน หรือมีพระมาก
ี
หลายองค์ก็อาจำเป็นได้ และดูเหมือนว่าพระออกไปอาบน้าร้อนท
�
่
ี
ี
ตโปทารามกันเสมอ ๆ จำึงทรงบัญญัติพระวินัยข้อน้ข้นมา ด้วย
ึ
คราวหน่งพระเจำ้าพิมพิสารเสดจำออกมาจำากในเมืองราชคฤห์จำะมา
ึ
็
ี
สรงน้าร้อนท่ตโปทารามบ้าง ด้วยความท่พระองค์ทรงเคารพใน
�
ี
ั
พระพุทธองค์ ท้งพระเจำ้าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จำึงทรงรอให้
็
็
พระอาบสรงเสรจำเสียก่อน จำึงจำะทรงสรงสนานแล้วจำึงจำะเสดจำกลับ
�
คืนเข้าเมือง ก็ทรงรออยู่นานจำนมืดค่าจำึงได้สรงสนาน เม่อเสรจำแล้ว
็
ื
็
จำะเสดจำกลับเข้าเมือง ก็ปรากฏว่าประตูเมืองปิดเสียแล้ว ก็เป็นเหต
ุ
ิ
ี
เดือดร้อน ความน้ทราบถึงพระพุทธองค์ จำึงทรงพจำารณาความสมควร
ิ
และดีงามในฝ่ายพระภิกษุ เพ่อให้ภิกษุสงฆ์ได้พจำารณา และสังวร
ื
ี
ในการมาสู่ท่อาบสรงน�้าร้อนในท่สาธารณะอย่างท่ตโปทารามน้ ไม่
ี
ี
ี
พึงมาบ่อย ๆ จำนเกินงาม และพึงไม่มัวอาบแช่อยู่นานจำนสมความ
ื
ประสงค์ของตน อันจำะเป็นเหตุให้ผู้อ่นท่รออาบต่อไปต้องเดือดร้อน
ี
่
ู
ี
ึ
่
ื
้
ั
ส่วนคาว่ามัชฌิมประเทศนน กหมายเอาพนทในชมพทวีป ซึ่ง
�
็
้
ุ
มพระเวฬุวัน และกรงราชคฤห์ ตงอยู่ ส่วนปัจำจำนตชนบท หมาย
ี
้
ั
ั
ี
็
ั
ความถึง พื้นท่นอกออกไปจำากน้น ดังประเทศไทยของเราน้กจำัดเป็น
ี
ปัจำจำันตชนบท ซึ่่งพระภิกษจำะอาบน�้าได้เป็นนจำ ไม่ผิดพระวินัยข้อน
ุ
ิ
้
ี
ึ
พวกเราออกจำากตโปทารามก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยมากแล้ว กลบขนรถ
ึ
ั
้
เดินทางกลับมาพักท่วัดไทยพุทธคยา
ี
l
406 พระพิชิต ชิตมาโร