Page 34 - หลักสูตรวิชาป้องกันทุจริต
P. 34
๒. ทฤษฎี ความหมาย และรูปแบบของการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม (Conflict of Interests)
คำ�ว่� Conflict of Interests มีผู้ให้คำ�แปลเป็นภ�ษ�ไทยไว้หล�กหล�ย เช่น “ก�รขัดกันแห่ง
่
์
์
์
่
่
ผลประโยชนสวนตนและผลประโยชนสวนรวม” หรือ “ก�รขัดกันระหว�งประโยชนสวนตนและประโยชน ์
่
ส่วนรวม” หรือ “ก�รขัดกันระหว่�งผลประโยชน์ส�ธ�รณะและผลประโยชน์ส่วนตน” หรือ “ประโยชน์
ทับซ้อน” หรือ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” หรือ “ผลประโยชน์ขัดกัน” หรือบ�งท่�นแปลว่� “ผลประโยชน์
ขัดแย้ง” หรือ “คว�มขัดแย้งท�งผลประโยชน์”
์
่
่
่
ก�รขัดกันระหว�งประโยชนสวนตนกับประโยชนสวนรวม หรือที่เรียกว� Conflict of Interests
์
่
นั้นก็มีลักษณะท�นองเดียวกันกับกฎศีลธรรม ขนบธรรมเนียมจ�รีตประเพณี หลักคุณธรรม จริยธรรม
ำ
กล่�วคือ ก�รกระทำ�ใดๆ ที่เป็นก�รขัดกันระหว่�งประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม เป็นสิ่งที่ควร
หลีกเลี่ยงไม่ควรจะกระทำ� แต่บุคคลแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละสังคม อ�จเห็นว่�เรื่องใดเป็นก�รขัดกัน
์
่
่
่
่
็
์
่
้
ระหว�งประโยชนสวนตนกับประโยชนสวนรวมแตกต�งกันไป หรือเมื่อเห็นว�เปนก�รขัดกันแลวยังอ�จมี
่
่
่
่
้
้
ำ
ระดับของคว�มหนักเบ�แตกต�งกัน อ�จเห็นแตกต�งกันว�เรื่องใดกระท�ไดกระทำ�ไมไดแตกต�งกันออก
่
ไปอีก และในกรณีที่มีก�รฝ่�ฝืนบ�งเรื่องบ�งคนอ�จเห็นว่�ไม่เป็นไร เป็นเรื่องเล็กน้อย หรืออ�จเห็นเป็น
เรื่องใหญ่ ต้องถูกประณ�ม ตำ�หนิ ติฉิน นินท� ว่�กล่�ว ฯลฯ แตกต่�งกันต�มสภ�พของสังคม
์
โดยพื้นฐ�นแลว เรื่องก�รขัดกันระหว�งประโยชนสวนตนและประโยชนสวนรวม เปนกฎศีลธรรม
่
่
์
็
้
่
ประเภทหนึ่งที่บุคคลไม่พึงละเมิดหรือฝ่�ฝืน แต่เนื่องจ�กมีก�รฝ่�ฝืนกันม�กขึ้น และบุคคลผู้ฝ่�ฝืนก็ไม่มี
ื
คว�มเกรงกลัวหรือละอ�ยตอก�รฝ�ฝนนั้น สังคมก็ไมลงโทษหรือลงโทษไมเพียงพอที่จะมีผลเปนก�รห�ม
่
่
้
็
่
่
้
ำ
่
ก�รกระท�ดังกล�ว และในที่สุดเพื่อหยุดยั้งเรื่องดังกล�วนี้ จึงมีก�รตร�กฎหม�ยที่เกี่ยวของกับก�รขัดกัน
่
แห่งผลประโยชน์ม�กขึ้นๆ และเป็นเรื่องที่สังคมให้คว�มสนใจม�กขึ้นต�มลำ�ดับ
์
คู่มือก�รปฏิบัติสำ�หรับเจ้�หน้�ที่ของรัฐเพื่อมิให้ดำ�เนินกิจก�รที่เป็นก�รขัดกันประโยชนส่วนตน
่
์
่
้
และประโยชนสวนรวม ต�มม�ตร� ๑๒๖ แหงกฎหม�ยประกอบรัฐธรรมนูญว�ดวยก�รปองกันและปร�บ
้
่
ปร�มก�รทุจริต ได้ให้คว�มหม�ยไว้ดังนี้
“ประโยชน์ส่วนตน (Private Interests) คือ ก�รที่บุคคลทั่วไปในสถ�นะเอกชนหรือเจ้�หน้�ที่
ำ
ของรัฐในสถ�นะเอกชนได้ท�กิจกรรมหรือได้กระท�ก�รต่�งๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตน ครอบครัว เครือ
ำ
ญ�ติ พวกพ้อง หรือของกลุ่มในสังคมที่มีคว�มสัมพันธ์กันในรูปแบบต่�งๆ เช่น ก�รประกอบอ�ชีพ ก�ร
ทำ�ธุรกิจ ก�รค้� ก�รลงทุน เพื่อห�ประโยชน์ในท�งก�รเงินหรือในท�งธุรกิจ เป็นต้น”
่
์
์
“ประโยชนสวนรวมหรือประโยชนส�ธ�รณะ (Public Interests) คือ ก�รที่บุคคลใดๆ ในสถ�นะ
้
้
่
้
ำ
ที่เปนเจ�หน�ที่ของรัฐ (ผูด�รงต�แหนงท�งก�รเมือง ข�ร�ชก�ร พนักง�นรัฐวิส�หกิจ หรือเจ�หน�ที่ของ
ำ
้
็
้
้
รัฐในหนวยง�นของรัฐ) ไดกระท�ก�รใดๆ ต�มหน�ที่หรือไดปฏิบัติหน�ที่อันเปนก�รด�เนินก�รในอีกสวน
้
่
็
่
้
้
ำ
ำ
้
หนึ่งที่แยกออกม�จ�กก�รด�เนินก�รต�มหน�ที่ในสถ�นะของเอกชน ก�รกระท�ก�รใดๆ ต�มหน�ที่ของ
้
้
ำ
ำ
เจ้�หน้�ที่ของรัฐจึงมีวัตถุประสงค์หรือมีเป้�หม�ยเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หรือก�รรักษ�ประโยชน์
หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม “การป้องกันการทุจริต” 27