Page 21 - คำให้การชาวกรุงสยามใหม่
P. 21
ั
ปี ๒๓๑๐ พม่าต้อนชาวอยุธยาไปเมืองอังวะ พม่าก็เอาคนเหล่าน้นมาให้การ
ต่อมามีการพิมพ์หนังสือชื่อ “ค�าให้การของชาวกรุงเก่า” และตอนนี้เราก็
ี
ตกเป็นเชลยเหมือนกัน ต่างกันท่ผมเป็นเชลยในคุกประเทศไทย ไม่ใช่
ประเทศพม่า ผมจึงเลือกช่อปาฐกถาว่า “คาให้การของชาวกรุงสยามใหม่”
�
ื
ี
ผมถือเอา ๒๔๗๕ เป็นจุดเร่มของสยามยุคใหม่ วันน้ผมจะมา
ิ
�
ี
ให้การว่า ๗๐ กว่าปีท่ผมอาศัยประเทศไทยน้อยู่ ทาไมถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็น
ี
เชลย ที่น่าสนใจคือ อันนี้ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่รู้สึกอย่างนี้ เพื่อนผมหลาย
ี
คนก็รู้สึกว่าตนเป็นผู้อาศัยประเทศน้อยู่เช่นเดียวกัน ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์
สุลักษณ์จะรู้สึกอย่างเดียวกับผมและเพื่อนๆ หรือเปล่า
ุ
ิ
ี
ตอนนผมตดคกอย่ จงไม่สามารถมาพบกับทกท่านได้ จึงขอให้
ึ
ู
้
ุ
คุณรัชนี ผู้เป็นภรรยามาอ่านค�าให้การให้ทุกท่านฟังแทน
ี
ผมดีใจนะครับท่ติดคุก ผมพูดจริงๆ นะครับ บางท่านอาจจะคิดว่า
ี
ผมพูดเล่น เพราะผมจะได้ไปเจอคนจน เพราะมีแต่คนจนท่ติดคุกเป็น
ส่วนใหญ่ ผมจะได้มีเวลาพูดคุยกับพวกเขา ได้เรียนรู้จากพวกเขา เพราะผม
สนใจเรื่องคนยากจนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ท�าให้นึกถึงถ้อยค�าของ เนลสัน แมนเดลา ที่ว่า
“IT IS SAID THAT NO ONE TRULY KNOWS A NATION
UNTIL ONE HAS BEEN INSIDE ITS JAILS. A NATION SHOULD
NOT BE JUDGED BY HOW IT TREATS ITS HIGHEST CITIZENS,
BUT ITS LOWEST ONES.
“กล่าวกันว่าไม่มีใครรู้จักประเทศหน่งอย่างแท้จริงจนกว่าเขา
ึ
จะได้ “เข้าไปอยู่ในคุก” ของประเทศน้น เราไม่ควรประเมินประเทศจาก
ั
ี
ี
วิธีการท่รัฐบาลปฏิบัติต่อพลเมืองช้นสูง หากควรดูจากวิธีการท่พวกเขา
ั
ปฏิบัติต่อพลเมืองซึ่งอยู่ในสถานะต�่าต้อยที่สุด”
คำ�ให้ก�รช�วกรุงสย�มใหม่ l 21