Page 143 - แผน เล่มที่ 1 R&D

139

5. สาระการเรียนรู 
้
ํ
ี
การทางานและหนาทของกลามเนือ
่
6. การจัดกจกรรมการเรียนรู 
ิ
ี่
6.1 ขั้นท 1 ขั้นนํา (Orientation : O)
1) นักเรียนและครูรวมกันพูดคุยสนทนาเกี่ยวกับคุณสมบัติของกลามเนื้อมอะไรบาง
ี
เชน
- มีความรูสึกตอสิ่งเรา
- มีความสามารถที่จะหดตัวได

- มีความสามารถที่จะหยอนตัวหรือยืดตัวได
- มีความสามารถที่จะดํารงคงที่อยูได
ั
้
ิ
ั
ํ
2) นักเรียนอาสาสมคร จํานวน 2 คน เปนตวนักเรียนออกมาทากจกรรมหนาชันเรียน
ี
ั

ี
ื
โดยครูแจกอุปกรณ ไดแก คมคบ และลูกปงปอง ใหคนละ 1 ชุด และใหนักเรียนอาสาสมครคนท 1 ถอคม
ี

ี
่

ื
ี
คบเพอใหคีบลูกปงปองโดยไมออกแรงบีบคีมคบ และใหนักเรียนอาสมัครคนท่ 2 ถือคีมคีบเพ่อใหคีบลูก

ื
ี
่
ี
ี
ั
ี
้
ปงปองโดยออกแรงบีบคมคบ ครูใหนักเรียนทายวาอาสาสมครนักเรียนคนไหนจะคบลูกปงปองได จากนัน
ี

ใหอาสาสมัครนักเรียนทั้งสองคนคีบลูกปงปอง
ั
ี
่
3) นักเรียนรวมกนสรุปวาอาสาสมครนักเรียนคนท 2 สามารถคบลูกปงปองได เพราะ

ี
ั
ออกแรงบีบคีมคีม สวนคนที่ 1 ไมสามารถคีบลูกปงปองไดเนื่องจากไมไดออกแรงบีบคีมคีบ จากนั้นนักเรียน
พดแสดงความคดเห็นเกยวกบการทําใหกลามเนื้อแข็งแรงสามารถทําไดอยางไร เชน
ี
่
ั
ู
ิ
- ออกกาลังกาย
ํ
ี
- รับประทานอาหารประเภทโปรตน

ี
4) ครูแจงจุดประสงคการเรียนรูใหนักเรียนรับทราบเกยวกบ เรื่อง การทํางานและหนาท ี่
ั
่

ของกลามเนื้อ และวิธีการเรียนในวันนี้
ึ

5) นักเรียนรับทราบถงวิธีการเรียนรูตามแนวทฤษฎีการสรางองคความรูดวยตนเองและ



รับทราบถึงบทบาทหนาที่ของสมาชิกกลุม จากครู

ั
ั
่
ี
ุ
6) นักเรียนและครูรวมกนอภิปราย จุดมงหมาย ความหมายและความสําคญของสิงทได 
่
ี
เรียนรูจากเรื่อง การทางานและหนาทของกลามเนือ
่
ํ
้
ั
้
6.2 ขั้นที่ 2 ขนแสดงความคิด (Elicitation : E)
ี่
ี่
7) นักเรียนและครูสนทนาเกยวกบความรูเดิมทไดเรียนในชั่วโมงทแลว และรวมกน
ั
ี่
ั
อภิปราย แนวคด คาตอบ เพอเชื่อมโยงความรูเดิมไปสูความรูเรื่อง การทํางานและหนาที่ของกลามเนื้อ
ิ
ื
่
ํ

8) นักเรียนรับชุดกจกรรมการเรียนรูตามแนวทฤษฎีการสรางองคความรูดวยตนเองเพอ


ื

ิ
่
เสริมสรางทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 4 รายวิชาสุขศึกษา
ชุดที่ 2 ระบบกลามเนื้อ จากครู

่
ื

ิ
9) นักเรียนรับฟงแนวทางการเรียนรูโดยใชชุดกจกรรมการเรียนรูจากครูเพอใหนักเรียน
ทราบวา นักเรียนควรจะศึกษาเรื่องนี้ใหละเอียดกอนการเรียนรู เพื่อเปนแนวทางในการเรียนรูในชั่วโมงที่จะ

เรียนตอไปนี้

10) นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4 - 5 คน โดยคละความสามารถ เกง กลาง ออน
