Page 242 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 242

31
               พระญายุธิษฐิระ (ยุทธิสเถียร) ได้ครองเมืองสองแคว (พิษณุโลก)  ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได ้
                                                                                            ้
               อธิบายในพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ว่า “เมืองเชลียงเป็นเมืองใหญ่เห็นได้ดวยชื่อเจ้าเมืองท ี่
               พระยายุทธิศฐิรเป็นเจ้าเมืองครอง และเหตุที่สงครามอยุธยาเชียงใหม่เกิดขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. ๑๙๘๙ ด้วยพระ

                                                                           32
               ยายุทธิศฐิร เจ้าเมืองเชลียงเอาใจออกห่างไปเข้ากับเชียงใหม่เป็นไสศึก”   การศึกษาของสมเด็จฯ กรมพระยา
                                                                      ้
               ดำรงราชานุภาพ ทำให้เป็นที่เข้าใจต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ในสมัยหลังว่าพระญายุธิษฐิระ คือ เจ้าเมือง
               เชลียง ซึ่งเมืองเชลียงก็คือเมืองศรีสัชนาลัย โดยพระองค์ได้เค้าโครงการศึกษามาจากพระราชพงศาวดารกรุงศรี

               อยุธยาที่ว่า “ศักราช ๘๐๘ ปีขาลอัฐศก (พ.ศ. ๑๙๘๙) ครั้งนั้นพญาชเลียงคิดขบถ พาเอาครัวทั้งปวงไป

                                                                                                   ิ์
               มหาราช” ฉะนั้นเมื่อตรวจสอบตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ได้ปรากฏว่าพระญายุธิษฐิระได้เขาสวามิภักดกับพระ
                                                                                         ้
                                                                     ี
               ญาติโลกราชแห่งเชียงใหม่ใน พ.ศ. ๑๙๙๔ ก่อนหน้าที่พระญาเชลยงจะเข้ากับเชียงใหม่ถึง ๔ ปี ดังนั้นพระญา
               ยุธิษฐิระจึงเป็นคนละคนกับพระญาเชลียงอย่างแน่นอน

                       ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ บอกว่า “เถิงปลีร้วงเม็ด ได้ปลี ๑ พระญายุทธิสเถียร กินเมืองสองแฅวมา
                                         33
               น้อมตัวเป็นข้าเจ้าเหนือหัว...”   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน พ.ศ. ๑๙๙๔ จุลศักราช ๘๑๓ ปีมะแม เป็นที่มาแห่ง
               เหตุการณ์สงครามระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ แห่งกรุงศรีอโยธยาและพระญาติโลกราชแห่งนครพิงค

               เชียงใหม่ ทำให้พระราชพงศาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐ บอกว่า “ศักราช ๘๑๓ (พ.ศ. ๑๙๙๔) ครั้งนั้น
                                                                                                  34
               มหาราช มาเอาเมืองชากังราวได้แล้วจึงเอาเมืองสุกโขไทย เข้าปล้นเมืองมิได้ก็เลิกทัพกลับคืน”   ต่อมา
                                                                                                     ้
               พระญายุธิษฐิระ ได้รับตำแหน่งเจ้าสี่หมื่น เมืองพะเยา ปรากฏพระนามในจารึกหลักที่ ๓๐๓  ฐานพระเจานาก
               ว่า “พระญายุธิษฐิระรามราชิสสรบรมสูรวงศ์” ครองเมืองพะเยา พ.ศ. ๒๐๐๐ -  ๒๐๒๐


               เนื้อความที่ ๑๒


                                                                                                      ่
                                                                                                       ้
                       “ฝ่ายพระญาติโลกะมหาราชาเจ้าฟ้าฮ่ามตนเจ้าช้างเวียงพิงคณที ตนองค์ฅำวิเสดใสก็มีใจใครกำชู
                                                                                        ้
               พระศาสนา แลชาวพาราลุ่มใต้ด้วยทสธัมม์ ในตนมหาราชาเป็นเจ้าด้วยพระญาไธยใตมัวเมาในอกศลธัมม     ์
                                                                                                   ุ
               ตัวหมอง จึ่งได้ยกพลเศิกจากล้านนาพิงคณเขต ลงมาย่างย่ำตีเศิกรบเอาเวียงไธย”
                                            ์
                       เป็นการกล่าวถึงเหตุการณที่พระญาติโลกราช กษัตริย์เชียงใหม่ได้ยกทัพลงมาทางใต้ ใน พ.ศ. ๑๙๙๔
                                                                                        ี
                                                                                                        ั
                                                                                                      ั้
               ปีมะแม ซึ่งตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ไดบอกว่า “เจ้าเหนือหัวจิ่งเอาริพลไพคำเอายุทธิสเถยรสองแฅว ไพตงทบ
                                               ้
                                                                             ้

                       31  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙ หน้า ๖๕.
                       32  พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม ๒. พิมพ์ครั้งที่ ๑๑. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
               , ๒๕๕๙, หน้า ๖๔ – ๖๕.

                       33  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙ หน้า ๖๕.
                       34  ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑, กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร,
               ๒๕๔๒, หน้า ๒๑๕.

                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๙๒
   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246   247