Page 301 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 301

บทที่ ๒

                                        เจ้าพระญาติโลกราชกับข้อสันนิษฐาน

                                        ตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง


                       จากการศึกษาบริบทของตำนานพระแท่นศลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง ที่ถูกบันทึกโดยเจ้านาย ๓ ฉบับ และ
                                                          ิ
               เมื่อนำฉบับใบลานมาปริวรรตเปรียบเทียบ จึงมีข้อสังเกตเกี่ยวกับตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง ที่มี

               ประเด็นทางประวัติศาสตร์มาเกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้จึงได้ยกสำนวนของเจ้านายที่กล่าวไว้ ดังนี้

                     ๑.  สำนวนสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงบันทึกไว้ใน จดหมายระยะทางไปพิษณุโลก

                                                                                                         ุ่
                                                                                                       ุ
               พ.ศ. ๒๔๔๔ ครั้งเสด็จมาถึงเมืองทุ่งยั้ง วันที่ ๖ มิถุนายน กล่าวถึง “...ท่านเจ้าอธิการวัดนี้(วัดพระบรมธาตทง
               ยั้ง) ได้ให้หนังสือตำนานพระแท่นสำหรับได้ตรวจดูรู้เรื่องผูกหนึ่ง เพราะท่านทราบข่าวที่ได้ถามกับพระยา
               จางวางเมืองอุตรดิฐ ในตำนานนั้น มีข้อความเพ่นพ่านไม่สู้ติดต่อกัน แลเปนเปลือกมากกว่าเนื้อ คิดว่าจะย่อ

                                 ่
                              ื
                                                                                                      ื
               ความมาจดไว้กันลมตอภายหลัง ในตำนานนั้นกล่าวถึงวัดมหาธาตุนี้ ว่าพระยาศรีธรรมโศกราชผู้ครองเมองศุ
                                                                                                        ้
                                                                                             ุ
                                            ุ
                                       ิ
                                                                        ้
                                                                            ้
               โขไทยได้เชิญพระบรมสารีรกธาตแห่งพระพุทธเจ้า มาบรรจุไว้ในถำใตดน แล้วกอพระธาตไวเบื้องบน ถำ
                                                                                    ่
                                                                             ิ
                                                                                               ้
               นั้นมิใช่ถ้ำภูเขา คือขุดหลุมฝังพระธาตุแล้วก่อรวบทับไว้เบื้องบนผูกภาพยนตรไวรักษา มิให้มีผู้ทำอันตราย
                                                                                 ์
                                                                                    ้
               ได้ การนี้ได้ทำพร้อมด้วยพระอรหันต์สาวกพระพุทธเจ้า”
                     ... เมืองทุ่งยั้งนี้ เพราะเป็นที่พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ มายับยั้ง จึงได้นามว่า ทุ่งยั้ง มีความว่า

                     “เมื่อพระกุกกุสนท์เสวยพระชาติเปนไก่ พระโกนาคมเสวยพระชาติเปนนาค พระกัสสัปเสวยพระ
                     ชาตเปนเต่า พระโคตมเสวยพระชาติเปนโค พระศรีอาริยเสวยพระชาติเปนราชสีห์  ทั้งห้าสัตว์
                     ได้มาจำศีลที่ภูเขาซรอก  ขณะเดียวกัน  แลมีปรารถนาอย่างเดียวกันที่จะเปนพระพุทธ จึงทำ
                     สัญญาต่อกันว่าถ้าได้สำเร็จเปนพระพุทธเมื่อใดจะมายังทมงคลสถานนี้  เพราะฉะนั้นเมื่อพระกุก
                                                                   ี่
                     กุสนท์ได้ตรัสเปนพระพุทธจึงเสด็จมาประทับที่ภูเขาซรอกนี้  แลต่อมาเสด็จทุกพระองค์จนถึง
                                                                                      ้
                     พระโคดมได้ตรัสก็เสด็จมา พวกชาวบ้านเอาเผอกมันมาถวายพระรับใสบาตรแลวให้พระอานนท   ์
                                                           ื
                                                                               ่
                     พระอานนท์จึงไปจัดอาศน (เห็นจะห้อยบาตรที่ต้นพุทราตรงนี้) เสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าจึงเสด็จ
                     ขึ้นประทับบนศิลาอาสน์ กระทำภัตากฤย์เสร็จแล้วแย้มพระโอฐ  พระอานนท์ทูลถาม จึงทรง

                     ทำนายอะไรเหลว ๆ  ดังจะได้เก็บความมาลงทีหลัง (จบความ) ”











                             มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง


                                                        หน้า ๑๓
   296   297   298   299   300   301   302   303   304   305   306