Page 313 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 313

ที่เคหะเหย้าเรือนแต่ละหลังก็จะเป็ฯราคาตำลึงทองหนึ่ง และชนทั้งปวงจะอยู่เย็นเป็นสุขสราญ ปรีดิ์เปรมเกษม

                   ์
               สันตเสมอทั่วกันหมด

                       ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ทั้งหวง เย จะ ราชา เทวะมนุสฺสานัง อันว่าท้าวพระยาองค์ใดก็ดี เทวดาและมนุษย์

               ผู้ใดๆ ก็ดี เมื่อได้มากระทำสักการบูชาในสถานที่นี้แล้ว ก็ดุจดังได้บูชาองค์พระตถาคตเมื่อยังทรงพระชนม์ชีพ

               อยู่ ฯ

                                                                ิ
                       ภิกฺขะเว ดูกรสงฆ์ทั้งหลาย เยนะรา อันว่านรชาตหญิงชายทั้งหลายก็ดี สมณชีพราหมณ์ ท้าวพระนา
               องค์ใดๆ ก็ดี กระทำปฏิสังขรณ์ซ่อมแปลงในฐานที่นี้ ด้วยน้ำจิตต์เลื่อมใสศรัทธา  ก็อาจปิดประตูจตราบายทั้ง
                                                                                                 ุ
                                                                                         ิ
               ๔ เสียได้ คนทั้งหลายนั้นก็จะมีอายุยืนนาน หาอันตรายมิได้  ครั้นจุติจากมนุษย์ก็จะนำปฏสนธิขึ้นไปบังเกิดใน
                                                                                           ิ
                 ั้
               ชนช่อฉกามาพจรสวรรค์ เป็นชั้นๆ ขึ้นไปจนถึงปรนิมมิต แล้วจุติจากสวรรค์ลงมาเสวยสมบัตในมนุษย์โลก เป็น
               อนุโลมปฏิโลมไปๆ มาๆ จนบารมีแก่กล้าก็จะได้ถึงซึ่งเมืองแก้วอันกล่าวแล้ว คือพระนิพพานเป็นเที่ยงแท ตอง
                                                                                                     ้
                                                                                                       ้
               ด้วยกระแสพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายไว้นั้น

                       ครั้นพระพุทธเจ้าเข้าสู่ปรินิพพานไปแล้วได้ ๒๐๐๐ ปีปลาย พระศรีธรรมโศกราช (พระเจ้าลิทัย)

               เสด็จยกพลมายับยั้งตั้งทับอยู่เมืองอุปปะยา คือ เมืองทุ่งยั้ง นี้ พระองค์ก็ให้ขุดแผ่นดินตรงถ้ำทุ่งยั้งลกได ๑๘
                                                                                                      ้
                                                                                                  ึ
               วา กว้าง ๑๘ วา เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส จึงให้หล่ออ่างลูกหนึ่งสิ้นทองล้านหนึ่ง แล้วจึงตักน้ำใส่ให้เต็มแล้วจึง
               หล่อสิงโตตัวหนึ่งสิ้นทองล้านหนึ่งให้ยืนอยู่ในอ่างทอง แล้วก็ให้หล่อพานทองลูกหนึ่งสิ้นทองล้านหนึ่ง ตั้งไว้

                                                                                             ิ
               เหนือหลังสิงโตทองนั้น แล้วจึงหล่อรูปพระนารายณ์องค์หนึ่งสิ้นทองล้านหนึ่งบ่ายหน้าไปทางทศตะวันออก  ช ู
               ไว้ซึ่งผอบแก้วผลึกแล้วตั้งไว้เหนือพานทองทำนั้น  แล้วพระยาศรีธรรมโศกราช (พระเจ้าลิทัย)  และพระอรหันต ์
               เจ้าทั้งหลายก็อาราธนาพระบรมอัฐิพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ในผะอบแก้วผลึกซึ่งรูปพระนารายณ์ชูอยู่นั้น แล้วให้

               หล่อรูปปราสาทสิ้นทองล้านหนึ่งแล้วหล่อรูปพระอินทร์ถือจักราวุธด้วยทองคำประดิษฐานในทิศตะวันออก

                                                      ิ
                                                                               ้
               แล้วจึงหล่อรูปวิรุฬหกถือพระขรรค์ทองคำอยู่ทศทักษิณ รูปพระอินทร์แลรูปทาววิรุฬหกเป็นภาพยนตร์พัดอยู่
               เป็นนิตยกาลแล้ว พระอรหันต์และท้าวพระยาทั้งหลายก็สั่งรูปภาพยนตร์ว่า  “ดูกรยักษาและเทวบุตรอันอยู่
               พิทักษ์รักษาสถานที่นี้ ท่านจงตั้งใจรักษาพระธาตุแห่งพระพุทธเจ้า ถ้าเมื่อบุคคลผู้ใดปรารถนาจะทำอันตราย

                                                                                                  ่
                                                                                              ่
                                                                                                ู้
                                                                                            ้
               แก่พระบรมธาตุนี้ พอที่จะให้ตายก็ให้ตาย พอที่จะให้ฉิบหายก็ให้ฉิบหาย เป็นอันตรายอย่างไดตอสทานไดเลย
                                                                                                      ้
               ผิว่าบุคคลผู้ใดจะบำรุงพระธาตุในฐานที่นี้ แลมานมัสการด้วยน้ำจิตต์เลื่อมใสศรัทธา ท่านทั้งปวงจงพิทักษ์รักษา
               คนหมู่นั้น อย่าให้เป็นอันตรายแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดๆ เลย”  ครั้นพระอรหันต์แลท้าวพระยาทั้งหลายสั่งดั่งนั้นแล้ว
                                                                                                       ้
               จึงโปรยปรายข้าวตอก ดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง กระทำสักการบูชาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า แล้วจึงถมดวย
               อิฐทอง แล้วจึงถมด้วยศิลาให้เสมอแผ่นดินแล้วจึงปลูกไม้รังต้นหนึ่งอยู่ในฐานที่นั้น แล้วพระศรีธรรมโศกราช

               (พระยาลิทัย) จึงพารี้พลกลับไปสู่เมืองสังคะโลก (เชลียง)



                             มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง


                                                        หน้า ๒๕
   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317   318