Page 27 - องค์ความรู้ ฉบับตีพิมพ์ จริง Ver1 (1)
P. 27

๑๕

               อยุธยำ ดังนั้นอำหำรกำรกินส่วนมำกจะนิยมกินแบบไทย รวมถึงมีกำร
               ผสมผสำนของชำวลำวพวน และชำวจีน จึงมีกำรวัฒนธรรมกำรกินที่

               หลำกหลำย
               “ข้าวแคบ”

                       ข้ำวแคบเป็นอำหำรที่ท ำจำกแป้ง

               ข้ำวเจ้ำเป็นวัฒนธรรมผู้ภำษำตระกูลไท
               ในอดีตเป็นวิธีกำรถนอมอำหำรอย่ำงหนึ่ง

                                                ิ่
               จะเป็นแผ่นสีขำวธรรมดำแล้วมำเพม
               คุณค่ำทำงอำหำรโดยกำรใส่งำด ำเข้ำไป
               ภำยหลังมีกำรพฒนำกำรรสชำติใส่พริก
                             ั
                                              ิ่
               ใส่น้ ำตำล ปรุงรสให้มีควำมอร่อยเพมขึ้น
               ใส่สีสันจำกธรรมชำติให้ดูน่ำทำน

                                             (รูปกำรท ำข้ำวแคบ:๒๔๗๙,เพจสยำมพหุรงค์)


                       ข้ำวแคบนิยมนิยมท ำกันเกือบทุกต ำบลในอ ำเภอลับแลโดยเฉพำะใน

               เขตเทศบำลศรีพนมมำศ และต ำบลฝำยหลวง เรียกได้ว่ำแทบทุกหลังคำเรือน จน

               เกิดเป็น “ถนนข้ำวแคบ” เส้นทำงท่องเที่ยวที่ส ำคัญอีกจุดหนึ่งของเมืองลับแล
                       ถือได้ว่าข้าวแคบเป็นอาหารพนบ้านยอดนิยมของชาวลับแลตั้งแต่
                                               ื้
               อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นภูมิปัญญาด้านอาหารที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า
               ตายาย จนมีเรื่องตลกซึ่งมักจะคุยกันในวงเหล้าว่าเมืองลับแลนั้นเต็มไปด้วย
               ผู้ล่ายและผู้ต้องหา ซึ่งผู้ล่ายในที่นี้เป็นภาษาชาวบ้าน หมายถึงผู้ไล้ข้าวแคบ
               (ผู้ไล้ข้าวแคบ หมายถึง คนที่ละเลงน้้าแป้งลงบนผ้าที่วางบนปากหม้อดินที่มี
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32