Page 44 - องค์ความรู้ ฉบับตีพิมพ์ จริง Ver1 (1)
P. 44

๓๒

                       จำกหลักฐำนภำพถ่ำยคณะช่ำงซอลับแลงที่เก่ำแก่ที่สุดในสมัย
               รัชกำลที่ ๕ รวมถึงภำพถ่ำยร่วมยุค แสดงให้เห็นถึงลักษณะกำรแต่งกำยของ

               ชำยหญิงและเด็กชำยเด็กหญิงขำวเมืองลับแลอันหลำกหลำย
               (ภำพถ่ำยคณะช่ำงซอเมืองลับแล ถ่ำยโดย Joaquim Antonio Apolinario หรือ J.Antonioปีพ.ศ.๒๔๔๔)


                ผู้ชาย

                       ชำยชำวลับแลที่เป็นเจ้ำขุนมูลนำย หรือรับรำชกำร รวมถึงคหบดี
                                                              ี
                 ่
               (พอเลี้ยงช้ำง)  โดยทั่วไปมักสวมเสื้อสีขำวคอกลมผ่ำอกมเชือกร้อยผูก พบทั้ง
               แขนสั้นและแขนยำว หรือใส่เสื้อรำชปะแตน นุ่งโจงกระเบนผ้ำไหม(ผ้ำม่วง)

               ต่ ำกว่ำเข่ำ เมื่ออยู่บ้ำนหรือไปไร่สวนมักจะไม่สวมเสื้อร่วมกับนุ่งโจงกระเบน
               สั้น พบกำรนุ่งผ้ำลอยชำยร่วมกับกำรใช้ผ้ำคำดเอว

                       ส่วนเครื่องแต่งกำยชำยชำวบ้ำนเมืองลับแลนั้น ผู้ชำยนุ่งผ้ำต้อยหรือ
               โจงกระเบนสั้นเหนือเข่ำ หรือนุ่งโสร่ง มัดเอวด้วยผ้ำชิ้นตำมแบบชำยชำว

               ล้ำนนำในอดีต ใส่เสื้อที่ท ำจำกผ้ำทอมือสีคล้ ำหรือสีขำวผ่ำหน้ำถึงอก หรือไม่

               ใส่เสื้อ อำจห่มผ้ำห่มหัวเก็บหรือผ้ำตุ๊มห่มคลุมเพอคลำยหนำวในฤดูหนำว
                                                         ื่
               นิยมสักหมึกที่ขำและล ำตัว เหนือช่วงเอว

                       ชำยชำวลับแลนิยมไว้ผมสั้น ด้ำนข้ำงเกรียนด้ำนบนยำว หรือที่
               เรียกว่ำทรงมหำดไทยในปัจจุบันนี้

               ผู้หญิง

                       หญิงชำวลับแลที่อยู่ในตระกูลเจ้ำขุนมูลนำย หรือคหบดี ในยุคนี้มัก
               ใช้ผ้ำคำดอก(ผ้ำมัดนม) หรือห่มกำยด้วยผ้ำสว้ำน(ผ้ำสไบ) สีด ำ สีขำว ซึ่งมัก

                                                            ื่
               เป็นผ้ำฝ้ำยทอมือที่ทอขึ้นเอง พบกำรใช้ผ้ำทอสีพนสีอนที่ซื้อจำกตลำด เช่น
                                                        ื้
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49