Page 78 - 1.ประวัติสาสตร์ชาติไทย ประถม สค.12024
P. 78

69





                                วิธีการควบคุมน้ าของเมืองสุโขทัย

                                จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นลักษณะชลประทานขนาดใหญ่ที่ต้องใช้คนเป็นจ านวน
                  มาก และต้องการการดูแลบ ารุงรักษาอยู่เสมอ (ชลประทานมาจากค าว่า ชล แปลว่า น้ า +


                  ประทาน แปลว่า ให้ หมายถึงการจัดสรรน้ าในรูปแบบต่างๆ เพื่อประโยชน์หลายอย่าง
                  แก่ประชาชน) ให้มีน้ าไว้ใช้อย่างเพียงพอและสม่ าเสมอตลอดปี เช่น การสร้างเหมืองฝาย

                  ส าหรับกักเก็บน้ าในฤดูฝนซึ่งเกินความต้องการ เป็นการบรรเทาปัญหาอุทกภัย และสามารถเก็บ

                  น้ าไว้ใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง เป็นต้น

                                การพัฒนาแหล่งน้ าในการชลประทานเพื่อการเกษตรกรรม มีวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

                                ในการพัฒนาแหล่งน้ าเพื่อประโยชน์ในการเพาะปลูกหรือเรียกว่า  การชลประทาน

                  มีหลากหลายวิธีที่ได้รับการพัฒนาในการกักเก็บน้ าไว้ใช้ ดังนี้

                                1.  การทดน้ า คือ การสร้างเขื่อนหรือฝายกั้นให้ระดับน้ าเหนือเขื่อนสูงขึ้นจนถึง

                  ระดับพื้นที่เพาะปลูก

                                2.  การส่งน้ า คือ การขุดคูคลอง หรือ การวางท่อส่งน้ า เพื่อกระจายปริมาณน้ า

                  ให้ทั่วถึงพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร

                                3.  การเก็บกักรักษาน้ า คือ การสร้างท านบ การสร้างประตูกักน้ า หรือแม้แต่

                  การพรวนดิน คลุมดินเพื่อรักษาความชื้นในดินให้มากที่สุด

                                4.  การระบายน้ า คือ การขุดคูคลองเพื่อระบายน้ าออกจากพื้นที่เพาะปลูก

                  เพื่อการเก็บเกี่ยวและขนย้ายผลผลิตออกจากพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร

                                5.  การป้องกันอุทกภัย คือ การระบายน้ าด้วยการสร้างคันกั้นน้ าและอาจมีท่อ

                  ระบายน้ าประกอบ


                                ประโยชน์ของการชลประทาน

                                จากการพิจารณาถึงวิธีการต่างๆ ของการชลประทานแล้ว เห็นได้ว่า การชลประทาน
                  ก่อให้เกิดประโยชน์มีมากมายหลายประการ ได้แก่

                                1. บรรเทาการเกิดอุทกภัย

                                2. กักเก็บน้ าไว้ใช้ตลอดปีทั้ง เพื่อการเพาะปลูกทางการเกษตรและการอุปโภค

                  บริโภคของประชาชน

                                3. ท าให้เกิดการใช้น้ าอย่างประหยัด เกิดประโยชน์สูงสุด ให้มีปริมาณเพียงพอ

                  อย่างสม่ าเสมอในฤดูเพาะปลูก และระบายน้ าทิ้งได้ทันการเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83