Page 31 - หลักสูตรประวัติศาสตร์ฯ จ.ร้อยเอ็ด
P. 31
๑๐
๑. ประเมินความน่าเชื่อถือ วิธีการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐาน ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์โดยการวิพากษ์
ของหลักฐานทาง ทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่าง ๆ อย่าง พงศาวดารร้อยเอ็ด ของพระยาขัติยะวงษา และพงศาวดารเมืองร้อยเอ็ด
ประวัติศาสตร์ในลักษณะ ง่าย ๆ เช่น การศึกษาภูมิหลังของผู้ทำ หรือ ของหม่อม อมรวงศ์วิจิตร และประวัติศาสตร์อีสานของเติม วิพากษ์พจนกิจ
ต่าง ๆ ผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุ ช่วงระยะเวลา รูปลักษณ์ ตามภูมิหลังของผู้ทำ หรือผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุในการทำ ช่วงระยะเวลา และ
ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น รูปลักษณ์ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ตัวอย่างการประเมินความน่าเชื่อถือของ
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยที่อยู่
ในท้องถิ่นของตนเอง หรือหลักฐาน
สมัยอยุธยา
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพนธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและ
ั
สามารถ วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น
- ไม่มีตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางที่สอดคล้องกับเนื้อหาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น –
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย
- ไม่มีตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางที่สอดคล้องกับเนื้อหาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น –
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ขอบข่ายเนื้อหาสาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด หมายเหตุ