Page 322 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 322

นี้จะเป็นการหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา อันนี้นักวิทยาศาตร์เขาก็พิสูจน์มาแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าหาก

               ว่าอยากสวย อยากหล่อ อยากชะลอความแก่ ก็นอน ๔ ทุ่ม พยายามนอน ๔ ทุ่มขึ้นไป แต่ถ้านอน

               เที่ยงคืน ตี ๑ อันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว ร่างกายมันจะหลั่งสารอีกอย่างหนึ่งหลั่งออกมา ก็คือ “สาร

               อะดรีนาลิน” สารแห่งความแก่ มันจะหลั่งออกมา เพราะฉะนั้น เอาสารแห่งความหนุ่มความสาว

               ดีกว่า ต่อไปนี้ก็จะกล่าวค าบูชาพระรัตนตรัยสืบไป







                 ๑๒๙                                              ธรรมะบรรยาย

                                                                   ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔




                                              ั้
                                    ่
                     เจริญพรทุก ๆ ทาน ท่านทงหลาย การได้สวดมนต์เราได้เฉพาะตัวเราแล้ว ยังเผื่อแผ่ให้แก่คน
               อื่นได้ด้วย เหมือนเราหาเงินหาทองได้เยอะ  ๆ  เราก็สามารถเผื่อแผ่ให้ญาติพี่น้อง ให้ใครต่อใครได้

               เหมือนเรามีความรู้เยอะ  ๆ  ก็ถ่ายทอดให้แก่คนอื่นได้  การสวดมนต์ก็เหมือนกัน  การทาสมาธิก็

               เหมือนกันด้วย “ภาวิโต พหุลีกโต” ท าให้มาก เจริญให้มาก ท าอย่างสม่ าเสมอ ทุกวัน ๆ นี่แหละ

                                                               ็
               เรียกว่าเก็บเล็กผสมน้อย มันก็จะมากขึ้น ๆ กลายเปนพลังงานบวก หรือพลังจิตดี ก็จะเกิดขึ้นในจิต
               ของแต่ละท่าน เมื่อจิตของเราได้พลังงานที่ดี มันก็จะไปบ ารุงจิตให้เอิบอิ่ม ให้ผองใส ให้เบิกบาน ให้
                                                                                       ่
                                                                           ่
               สดชื่น ร่างกายของเรานี่ ด็อกเตอร์ มาซารุ อิโมโต้ เขาบอกว่า ในรางกายของเรามีน้ าอยู่ ๗๐ % ที่นี้
               น้ า ๗๐ % นี่ ถ้าเราสวดมนต์ประจ านี่มันจะไปเปลี่ยนโมเลกุลของน้ าที่อยู่ในร่างกายของเราให้เป็น

               โมเลกุลที่ดี เมื่อน้ าในร่างกายของเรามันดี สุขภาพของเราก็จะดีด้วย เพราะว่าน้ าตั้ง ๗๐ % นี่เอง

                     เพราะฉะนั้น การเจ็บป่วยมันเป็นเรื่องธรรมดาก็จริง ไม่มีใครจะทัดทานได้ แม้แต่องค์สมเด็จ

               พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ก็ทรงพระประชวร  รู้ได้ยังไง  บทสวดมนต์เมื่อกี้  เขาก็บอกแล้ว  “เอกะทา

               ธัมมะราชาป เคลัญเญนาภิปีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตตะวานะ สาทะรัง” พระองค์ก็
                           ิ
               ทรงประชวรเหมือนกัน ทานได้เรียกพระจุนทัตเถระมา “ภะณาเปตตะวา” เธอจงสาธยายโพชฌัง
                                       ่
               คะปริตรให้ฟังหน่อย เมื่อสาธยาย “สัมโมทิตตะวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฎฐาสิ ฐานะโส สัมโมทิตตะ

               วา” คือความเบิกบานใจเกิดขึ้น อาพาธทั้งหลาย “วุฎฐาสิ ฐานะโส” อยู่ในฐานะที่หายไป “เอเตนะ






                                                          ๓๒๒
   317   318   319   320   321   322   323   324   325   326   327